โครงการ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ เป็นอีกหนึ่งโครงการของรัฐบาลแพทองธารที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาคนในเมืองที่มีอุปสรรคในการมีบ้านเป็นของตัวเอง และแก้ปัญหาการใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาทำที่อยู่อาศัยให้ประชาชน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ในงานแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยจะเริ่มจากพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในกรุงเทพฯ ไม่มีเงินดาวน์ ผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท เป็นเวลาประมาณ 30 ปี และจะให้อยู่ได้ 99 ปี โดยให้สิทธิ์กับคนที่ยังไม่มีบ้านก่อน
โดยจะเริ่มจากโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพดีพร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีสุขภัณฑ์ ไฟฟ้า และระบบรักษาความปลอดภัย เริ่มต้นประมาณ 30 ตารางเมตร เฉพาะคนไทยทุกคนจะมีสิทธิ์คนละ 1 ยูนิต ซึ่งจะมีบ้านตัวอย่างให้ดูในปี 2568
เตรียมเปิดตัวห้องตัวอย่าง 20 มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท. เปิดเผยว่า บริษัทได้รับมอบหมายในการผลักดันโครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งจะมีการนำร่องใช้ที่ดินของ รฟท. ในการพัฒนาด้วย
โดยปัจจุบัน SRTA อยู่ระหว่างการดำเนินการ และเตรียมเปิดตัวห้องตัวอย่าง ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) วันที่ 20 มกราคม 2568 เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชมโครงการ
ส่องคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้มีสิทธิ์
- คนไทย
- ไม่เคยมีบ้านมาก่อน
- ไม่ติดเครดิตบูโร
อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์ที่ชัดเจนยังต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลัง และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อยู่ระหว่างการร่างกฎเกณฑ์
ส่อง 4 พื้นที่นำร่อง
โดยตามรายงานข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณา 4 ทำเลศักยภาพ ดังนี้
- บริเวณย่านบางซื่อ นิคม กม.11 หลังสำนักงานใหญ่ ปตท. ใกล้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- บริเวณใกล้สถานีธนบุรี ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินผ่าน
- บริเวณเชียงราก ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เส้นทางรถไฟสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
- บริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่
ส่องไทม์ไลน์โครงการบ้านเพื่อคนไทย
- 20 มกราคม 2568 เปิดให้จองโครงการ
- กุมภาพันธ์ 2568 เริ่มก่อสร้างโครงการนำร่อง
- ธันวาคม 2568 เริ่มโอนโครงการนำร่อง 154 หน่วย
- มิถุนายน 2569 เริ่มโอนโครงการนำร่อง 4,256 หน่วย
- ธันวาคม 2569 เริ่มโอนโครงการ 56,000 หน่วย
- ภายในปี 2570 เริ่มโอนโครงการ 39,590 หน่วย