ความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลัง คสช. ปลดล็อกคำสั่ง-ประกาศ 9 ฉบับ ทำให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง ยกเว้นการหาเสียงเลือกตั้งเต็มรูปแบบ
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มีมติให้แต่งตั้งประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อประสานกับว่าที่ผู้สมัครและกำหนดกิจกรรมเพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน โดยตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
ซึ่งหลังจากนี้พรรคไทยรักษาชาติจะเดินหน้าลงพื้นที่ในการทำกิจกรรมทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการรับสมัครสมาชิกพรรค การตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะมีความชัดเจนในเรื่องของผู้สมัคร ส.ส. เขต อีกทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนในปัญหาต่างๆ เพื่อที่พรรคจะได้นำเสียงสะท้อนเหล่านี้ มากำหนดเป็นนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดต่อไป
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมให้สมาชิกพรรคลงคะแนนหยั่งเสียงผ่านระบบออนไลน์ในเว็บไซต์ของพรรค หรือไพรมารีโหวตผู้สมัคร ส.ส. ในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ เมื่อได้ทราบผลการหยั่งเสียง จะนำรายชื่อจากแต่ละเขตไปรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าใครคือผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ คาดว่าวันที่ 21 ธันวาคมนี้ พรรคอนาคตใหม่จะสามารถประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคได้ทั้งหมด
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดรับสมัครในวันที่ 18 ตุลาคม มีสมาชิกพรรคที่สนใจเสนอตัวเข้าคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. เกือบ 700 คน เกือบทั้งหมดเป็นคนหน้าใหม่ หรือ New Comer ในการเมืองไทย โดยคณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการคัดเลือกผู้สมัครเกือบ 700 คน จากการสัมภาษณ์ ทำแบบทดสอบ ตรวจสอบประวัติ บุคลิก พฤติกรรม ทัศนคติ แนวคิดในการทำงาน ประกอบกับการคำนึงถึงยุทธศาสตร์ของพรรคในแต่ละพื้นที่ จนได้บุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้เข้ารับการหยั่งเสียงเบื้องต้นภายในพรรค หรือ Primary Vote รวมทั้งสิ้น 417 คน โดยมีเขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้เข้ารับการหยั่งเสียงจำนวน 34 เขต เขตเลือกตั้งที่มีผู้เข้ารับการหยั่งเสียงคนเดียวจำนวน 230 เขต และเขตเลือกตั้งที่มีผู้เข้ารับการหยั่งเสียงเกิน 1 คน มีจำนวน 86 เขต
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล