พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ขยับครั้งใหญ่หลัง คสช. ปลดล็อกเปิดให้ทำกิจกรรมทางการเมือง โดยวันนี้ (13 ธ.ค.) ทษช. ปิดห้องเดอะ พอร์ทอล บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมว่าที่ผู้สมัครและสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ทษช. กล่าวช่วงหนึ่งบนเวทีว่า ถือเป็นการพูดครั้งแรกหลังการปลดล็อก โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเคยแถลงข่าวไป 2 ครั้ง และโดนข้อหา 2 คดี พร้อมประกาศจุดยืนของพรรคในเชิงยุทธศาสตร์ว่า ทษช. จะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะในสภา
“มีไทยรักษาชาติฝ่ายประชาธิปไตยจึงชนะ” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเวลาต่อมาว่า การจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเวลานี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ เพราะยังเร็วเกินไป แต่สามารถพูดได้ว่าพรรคการเมืองที่ต้องการหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ถือว่าเป็นพันธมิตรกันโดยธรรมชาติ ส่วนจะคุยกันมากกว่านี้อย่างไรต้องค่อยๆ ให้เหตุการณ์มันพัฒนาไป
ส่วนช่วงระหว่างนี้ นายจาตุรนต์เห็นว่า สิ่งที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ควรจะทำหลังประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัวมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. ควรจะประกาศตัวเป็นรัฐบาลรักษาการโดยเร็ว เพื่อที่จะให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของ กกต. ไม่อนุมัติงบประมาณในโครงการใหญ่ๆ หรืองบประมาณผูกพัน ไม่ทำโครงการใหม่ และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต้องเสนอขอความเห็นชอบจาก กกต.
และ 2. พล.อ. ประยุทธ์ ควรจะประกาศในฐานะหัวหน้า คสช. ว่า จะไม่ใช้มาตรา 44 ในการแทรกแซงการทำงานของ กกต. และไม่ใช้แทรกแซงการเลือกตั้ง เพราะเมื่อประกาศตัวเป็นนักการเมืองแล้วก็ควรแสดงสำนึกความรับผิดชอบว่าจะไม่เอาเปรียบนักการเมืองอื่นๆ
ส่วนหลังการปลดล็อก ทษช. จะใช้เวลาในช่วงนี้เดินทางรับฟังปัญหาและความเห็นจากประชาชน และมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติจะมีนโยบายที่เป็นที่ยอมรับจากประชาชนแน่นอน พร้อมมั่นใจว่าเวลาที่มีอยู่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนรู้จักและมั่นใจในพรรครักษาชาติให้เข้าไปเป็นรัฐบาล
ด้านนโยบายของพรรคการเมืองต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีหรือไม่นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันได้ คือรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ จะต้องปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ หากไม่ทำตามก็จะผิดกฎหมาย แต่พรรคการเมืองสามารถเสนอนโยบายที่ไม่ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ หรือมีนโยบายที่จะไปแก้ไขหรือยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติได้
“เมื่อเป็นรัฐบาลในขณะที่ยังไม่ยกเลิกหรือแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด แต่ไม่ใช่พรรคการเมืองจะต้องทำทุกอย่างตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเราจะมีนโยบายสำคัญข้อหนึ่งก็คือจะแก้ยุทธศาสตชาติเสียใหม่” นายจาตุรนต์ กล่าว
ขณะที่ ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. กล่าวว่า ตนและนายจาตุรนต์ได้หารือกันเห็นว่า การลงสมัครในระบบเขตเลือกตั้งจะมีเวลาไม่เพียงพอ เพราะทั้งคู่ต้องใช้เวลาไปเดินหาเสียงพบปะกับประชาชน แต่ทั้งนี้ยังเป็นเพียงแค่การหารือกัน เพราะสุดท้ายต้องไปพูดคุยกับคณะกรรมการสรรหาอีกครั้ง
ส่วนจำนวน ส.ส. ของพรรคยังไม่ได้สรุป เพราะผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้เป็นผู้แสดงเจตจำนงที่จะลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรค แต่การสรรหาต่อจากนี้ไปต้องมีการส่งรับฟังความเห็นในพื้นที่ด้วย แต่ก็ยอมรับว่ามีการวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ในบางพื้นที่ไว้เบื้องต้นแล้ว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
