วันนี้ (28 เมษายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เดินทางมายังลานพนมนาคา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อศรีโคตรบูรณ์ เสื้อพื้นเมืองประจำจังหวัดนครพนม เพื่อร่วมสักการะพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งมีอาจารย์คฑา ชินบัญชร เป็นผู้นำทำพิธี พร้อมถวายพานบายศรีเครื่องสักการบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช รับมอบนาคเกี้ยว ก่อนจะร่วมถ่ายภาพกับคณะ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้จุดเรือไฟบกที่ทางจังหวัดได้จัดการแสดงเรือไฟบกเป็นครั้งแรก เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและ ครม. ได้เห็นโครงสร้างของเรือไฟอย่างใกล้ชิด แสดงถึงพลังของความ สามัคคีของคนในชุมชนที่ร่วมมือร่วมใจกันในทุกภาคส่วนก่อนที่จะเป็นเรือไฟที่งดงาม ในทุกวันออกพรรษาของทุกปี
ถือเป็นสัญลักษณ์ที่รัฐบาลจะผลักดันประเพณีไทยสู่ประเพณีไหลเรือไฟโลก ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะชมชุดการแสดง ‘ประทีปไหลเรือไฟนฤมิตรนาฏกรรม เหนือลำแม่น้ำโขง’ โดยนักเรียนโรงเรียนเชียงยืนวิทยา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และถ่ายรูปร่วมกับประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง
ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังที่พัก มีประชาชนตะโกนบอกนายกรัฐมนตรีว่า “ขอบคุณที่มานครพนมบ้านผม”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามอาการป่วยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับว่า “โอเคขึ้นแล้วค่ะ”
สำหรับพญาศรีสัตตนาคราชที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งความศรัทธาของจังหวัดนครพนมเป็นสถานที่สำคัญที่ประชาชนเคารพนับถือกันเป็นอย่างมากด้วยเอกลักษณ์ของพญาศรีสัตตนาคราชสร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์มีขนาดกว้าง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ประดิษฐานอยู่บนแท่นรวมความสูง 16.29 เมตร ถือว่าเป็นพญานาคองค์เดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ แสดงถึงองค์พญานาคที่มีความผูกพัน เชื่อมโยง พิทักษ์ ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมตามตำนาน