วันนี้ (29 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการถึงการแก้ไขปัญหาสินค้าออนไลน์ที่บุกรุกตลาดของประเทศไทย จนทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเสียเปรียบอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน
ที่ประชุม ครม. เสนอให้หยิบเรื่องนี้มาพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นำ 3 มาตรการที่เตรียมไว้มาดำเนินการควบคุมมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าออนไลน์ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
โดยนายกรัฐมนตรีเน้นว่า การขายสินค้าออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศควรมีการจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย เพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้าและเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างถูกต้อง เนื่องจากปัจจุบันสินค้าออนไลน์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศไม่ได้มีการเสียภาษีแต่อย่างใด
อีกทั้งสินค้าที่ขายในออนไลน์ ไม่ว่าจะมีการสั่งซื้อมาจากที่ใด ควรจะมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและยาต้องมีใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำกับไว้ โดยมีการวางกรอบในการดำเนินการไว้ 1 เดือน
ประสานหน่วยงานป้องกัน PM2.5 ต่อ แก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ
จิรายุกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการในที่ประชุมถึงมาตรการการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีระบุในที่ประชุมว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ให้ทุกหน่วยงานเร่งพิจารณาการช่วยเหลือประชาชน พร้อมกับส่งเรื่องที่เกี่ยวข้องในการเยียวยาต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติมไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อพิจารณากลั่นกรองโดยไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และครอบคลุมในทุกมิติ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงและกำลังเข้าสู่ช่วงการเยียวยาและฟื้นฟู จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอมาตรการโดยเร็วเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม.
โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยว่าแม้จะมีการส่งมอบคืนพื้นที่แล้ว แต่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องของฝุ่นละอองต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีปัญหาหมอกควัน รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่จะตามมา จนทำให้เกิดฝุ่น PM2.5
จิรายุกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการแก้ไขปัญหาในช่วงต้น ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหาขึ้นมาก่อนแล้วจึงทำการแก้ไข เพื่อที่จะได้ประสานงานถึงที่มาของฝุ่นควัน ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านหรือเกษตรกรในประเทศ โดยมีมาตรการว่าจะไม่รับซื้อข้าวโพดและอ้อยที่เกิดจากการเผาทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากทำให้เกิดฝุ่นควัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอความร่วมมือไปยังกระทรวงคมนาคมให้ดำเนินการตรวจจับรถยนต์ที่มีไอเสียมากขึ้น โดยมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกมาตรการที่รัดกุมเพื่อควบคุมมลพิษที่จะเกิดขึ้นต่อไป
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ประเสริฐและเฉลิมชัย นำเป้าหมายในการบริหารจัดการน้ำและแผนงานของอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐามาบูรณาการร่วมกัน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในอนาคต รวมถึงน้ำในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมของประเทศไทย