จากกรณีสำนักข่าว The Irrawaddy รายงานว่า ทางการเมียนมาได้ช่วยเหลือชาวต่างชาติราว 500 คน รวมชาวไทย 189 คน ซึ่งถูกล่อลวงไปบังคับใช้แรงงานในธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์ แต่กลับไม่ได้ส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของแต่ละประเทศ โดยส่งไปยังค่ายทหารที่เมืองเล่าก์ก่าย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน ซึ่งกำลังเป็นพื้นที่สู้รบรุนแรงระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ และถูกบังคับใช้แรงงานและใช้เป็นโล่มนุษย์อยู่ในพื้นที่แนวหน้าของการสู้รบ
ล่าสุด ณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนไทยจำนวน 162 คน ที่คาดว่าถูกล่อลวงไปทำงานผิดกฎหมายในเมียนมาได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมา และอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่เมืองเล่าก์ก่าย เพื่อรอกระบวนการส่งตัวกลับประเทศไทย
โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ผลักดันให้เคลื่อนย้ายคนไทยออกจากเมืองเล่าก์ก่ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีการสู้รบกันระหว่างฝ่ายต่อต้านกับทหารและตำรวจเมียนมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมเป็นต้นมา ฝ่ายเมียนมาจึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย หากจะเคลื่อนย้ายคนต่างชาติต่างๆ ออกนอกพื้นที่ แต่สถานทูตก็ได้หารือกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางเลือกต่างๆ ที่ดีที่สุดในการนำคนไทยออกจากพื้นที่โดยเร็วและปลอดภัย
ทั้งนี้ เมืองเล่าก์ก่าย รัฐฉาน เป็นเขตปกครองตนเองโกก้าง ที่มีสถานการณ์พิเศษ ซึ่งมักมีเหตุปะทะกันและก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเนืองๆ มีการกำหนดเวลาเข้า-ออกเคหสถาน และเป็นเขตที่ชาวต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าพื้นที่ ทำให้การให้ความช่วยเหลือคนไทยมีความยากและซับซ้อน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ตามที่มีการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อนว่าทางการเมียนมาได้จับกุมคนไทยเกือบ 200 คนนั้น ข้อเท็จจริงคือคนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมา จากทั้งที่ถูกหลอกไปทำงานในพื้นที่และจากสถานการณ์สู้รบ ซึ่งสถานทูตได้ประสานให้ทางการเมียนมาช่วยเหลือ จัดที่พำนัก และดูแลสวัสดิภาพเบื้องต้นระหว่างรอการส่งกลับ รวมถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญชาติ และช่วยเหลือคนไทยที่ยังอาจอยู่ในพื้นที่เพิ่มเติม
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศ
