วันนี้ (28 สิงหาคม) ที่กรมราชทัณฑ์ ตัวแทนพรรคไทยภักดี นำโดย อนันต์ สาครเจริญ เหรัญญิกพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ มี สมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ มาเป็นตัวแทนรับหนังสือ
โดยรายละเอียดในหนังสือระบุว่า เนื่องจากมีข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายสำนักอันเป็นที่เชื่อถือได้ว่า ทักษิณจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะราย
พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ เพราะมองว่าทักษิณต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมากถึง 4 คดี เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระ เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศอย่างย่อยยับ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ และยังมีพฤติกรรมหลบหนีการลงโทษไปต่างประเทศ ไม่เคารพยอมรับคำพิพากษาของศาล
พร้อมทั้งกล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศตลอดมา ดังนั้น การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของทักษิณจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบจากการกระทำความผิดของตนเองไปเป็นภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง
รวมถึงมองว่าจะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการสร้างความอยุติธรรมขึ้นมาในประเทศ เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน ทำให้วาทกรรมที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” ปรากฏเป็นจริงขึ้นมา
ซึ่งกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเคร่งครัด และในสมัยที่ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยึดนโยบายที่จะไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อที่จะธำรงรักษาหลักธรรมาภิบาลแห่งรัฐไว้อย่างหนักแน่นมั่นคง
ซึ่งควรเป็นนโยบายที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมจะต้องยึดถือสืบทอดเอาไว้ การดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายให้ทักษิณ จะเป็นแบบอย่างที่เลวร้ายต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะทำลายหลักธรรมาภิบาล
ดังนั้น พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของทักษิณอย่างถึงที่สุด
อนันต์กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเนื่องจากทักษิณต้องโทษคดีทุจริตในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ควรจะต้องมีความโปร่งใสน่าเชื่อ และการทุจริตคอร์รัปชันเป็นการประพฤติผิดร้ายแรง จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการมิบังควรและทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และทำให้เกิดความไม่สบายใจของประชาชน
ทั้งนี้ จึงอยากให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน เพราะตั้งแต่ถึงสนามบินมีตำรวจมารับ ทำความเคารพให้ ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะไปอยู่ในห้อง VIP ของโรงพยาบาลตำรวจ และยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์จะต้องให้ความเท่าเทียมกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ โดยไม่มีอภิสิทธิ์ชนในประเทศนี้