วันนี้ (5 สิงหาคม) พรรคไทยภักดีจัดเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยผลการเลือกตั้งปรากฏว่า อิสราพร นรินทร์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดีคนใหม่ และมี ธนุ สุขบำเพิง เป็นเลขาธิการพรรค ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นประธานพรรค
นอกจากนี้พรรคไทยภักดียังเปลี่ยนสีประจำพรรคจากสีเหลืองเป็นสีเขียว ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ แต่ยังคงมีอุดมการณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งมีนโยบายด้านเกษตรเพิ่มเติม
ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นพ.วรงค์ขึ้นอ่านแถลงการณ์ของพรรคไทยภักดี ในหัวข้อ ‘สถาปนาระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ’
“91 ปีที่วงจรการเมืองไทยตกอยู่ภายใต้มรดกบาปของคณะราษฎร ที่แอบอ้างชื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แทนที่จะเป็นระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ อันเป็นชื่อเรียกระบอบการปกครองของประเทศไทยที่ถูกต้อง
และทั่วโลกต่างพากันใช้ชื่อนี้อย่างเป็นสากล นั่นมิต้องพูดถึงระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นระบอบการปกครองประชาธิปไตยรูปแบบหนึ่งที่ดีที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับดัชนีประชาธิปไตยของ EIU (Economist Intelligence Unit)
ด้วยมรดกบาปของคณะราษฎร เจตนาอ้างประชาธิปไตยเพื่อกดข่มสถาบันพระมหากษัตริย์ มุ่งหวังตัดขาดสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากโครงสร้างการปกครองไทย โดยทำเสมือนยกพระมหากษัตริย์ให้อยู่เหนือการเมือง
จากนั้นจึงสร้างระบอบประชาธิปไตยปลอมๆ อ้างรัฐธรรมนูญ อ้างการเลือกตั้ง เพื่อหลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อให้เข้าสู่อำนาจ เกิดเป็นการเมืองระบอบเผด็จการทหาร การเมืองระบอบเผด็จการนายทุน
จนมาถึงล่าสุด การเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองหุ่นเชิดตะวันตก ที่มุ่งหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาปนาระบอบสหพันธรัฐ หรือกระทั่งระบอบสาธารณรัฐ ขึ้นแทนที่ระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
ดังจะเห็นจากกรณีล่าสุดที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าไม่แก้ ม.112 ดังเช่นพรรคก้าวไกล แต่ยังเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งผลที่ตามมาจะเลวร้ายกว่าการแก้กฎหมาย ม.112 เพราะ
- การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นการเลือกตั้งอัปยศ มีการใช้อิทธิพลด้วยวิธีการฉ้อฉลทางดิจิทัลให้ประชาชนเข้าใจผิดเพื่อไปลงคะแนนให้มากที่สุด
- คณะก้าวหน้าได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ลิดรอนพระราชอำนาจและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างถึงที่สุดไว้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นวิธีการฉ้อฉลทางดิจิทัลจะนำไปสู่การเลือกคนของฝ่ายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเป็น ส.ส.ร. และจะนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อสถาปนาระบอบสหพันธรัฐหรือระบอบสาธารณรัฐในที่สุด
91 ปีแห่งวังวนอันเลวร้าย ภายใต้มรดกบาปคณะราษฎรที่ได้ทิ้งไว้ มาถึงจุดวิกฤตบนเส้นทางประวัติศาสตร์ของการเมืองประเทศไทย ว่าจะเป็นประเทศที่ปกติสุขภายใต้ร่มพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์ หรือจะเป็นประเทศที่ไร้ซึ่งสถาบันหลักของชาติภายใต้การกำกับบงการของมหาอำนาจตะวันตก
ถึงเวลาที่พรรคไทยภักดีจะต้องลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้ง ถึงเวลาที่พรรคไทยภักดีสายเลือดใหม่มิอาจนิ่งดูดายกับความเจ็บปวดที่นักการเมือง นายทุนการเมือง พรรคหุ่นเชิด องค์กรรับเงินต่างชาติ ได้ร่วมมือกันทำร้ายและทำลายสถาบันหลักของชาติ ภายใต้คำลวง สืบสานภารกิจคณะราษฎร
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องร่วมกันล้างมรดกบาปคณะราษฎร ถึงเวลารีเซ็ตการเมืองไทย สถาปนาระบอบการเมืองอันมีพระมหากษัตริย์ ประชาชน และฝ่ายการเมือง เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้เป็นแผ่นดินเสรีที่ผาสุกร่มเย็นตลอดไป นั่นคือราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ อันถือว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยสากลของประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นมา เป็นอยู่ และให้เป็นตลอดไป และให้อยู่เหนือระบอบประชาธิปไตยอันมีจักรวรรดิอเมริกาเป็นผู้บงการ”