วานนี้ (15 มกราคม) พรรคไทยภักดี เปิดการปราศรัย ‘ไทยภักดี รบแตกหัก คนโกงชาติ รุกจังหวัดสมุทรปราการ’ นำโดย ถาวร เสนเนียม ประธานพรรค, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค, พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรค ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมุทรปราการ คือ ปพน บุญริ้ว เขต 2 และ จิรศักดิ์ แสงแจ่ม เขต 6
ถาวรกล่าวกับประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยว่า ตนทราบดีว่าการเมืองในภาคกลางมักจะเลือกผู้แทนที่มาจากบ้านใหญ่ เป็นกลุ่มผู้มีบารมี ร่ำรวย แต่ผู้สมัครทั้ง 2 คนของพรรคเรา ไม่ใช่คนมีอิทธิพลและร่ำรวยอะไร แต่มีความตั้งใจดีที่จะเสนอตัวให้ประชาชนใช้ดุลยพินิจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าถามว่าทำไมผู้สมัครเหล่านี้ถึงเดินเข้ามาหาพรรคไทยภักดี เพราะมีนายทุนมาให้เงินหรือไม่ ตนขอยืนยันว่าไม่มี พรรคของเราไม่ได้รับเงินจากโครงการโกงกินต่างๆ มาใช้ในการเลือกตั้งแน่นอน แต่ด้วยการสนับสนุนจากประชาชน และที่สำคัญคือเรามีอุดมการณ์และจุดยืนที่ตรงกัน ก็คือ ความจงรักภักดีและต้องการจะปราบโกง
ถาวรกล่าวต่อไปว่า พรรคไทยภักดีตั้งขึ้นมาเพื่อภักดีประชาและศรัทธาสถาบัน นั่นคือเรารักและเคารพในสิทธิของประชาชน ไม่หลอก ไม่โกงเงินประชาชน ขณะนี้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของชาติเราก็คือการทุจริตทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงนักการเมืองทุกระดับชั้น ประเทศเรามีเงินงบประมาณของราชการปีละ 3.3 ล้านล้านบาท มีเงินงบประมาณที่ใช้ในรัฐวิสาหกิจ 50 แห่ง ที่ผ่านมาเราเผชิญกับโครงการหลายโครงการของภาครัฐที่มีการทุจริต ไม่ว่าจะเป็น โครงการรับจำนำข้าว โครงการบ่อบำบัดคลองด่าน การก่อสร้างสนามฟุตซอล ต่างก็มีชื่อนักการเมืองระดับบิ๊กเนม รวมถึงข้าราชการระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น
“ถ้าพรรคไทยภักดีได้เข้าไปเป็นรัฐบาลเราจะแก้กฎหมายให้ผู้ที่ถูกบีบบังคับจากข้าราชการหรือนักการเมืองให้จ่ายสินบนจะต้องเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ต้องหา เพราะถ้าเราสามารถปราบโกงได้ จะประหยัดเงินของประชาชนปีละ 3 แสนล้านบาท โดยที่เราจะนำเงินตรงนี้มาสร้างที่อยู่อาศัย ดูแลเรื่องสุขอนามัย เพิ่มเงินสวัสดิการให้กับคนจน รวมถึงการแก้ไขปัญหาในเรื่องพลังงาน” ถาวรกล่าว
ขณะที่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า การเมืองของประเทศไทยในวันนี้ คือการนำเงินจากนายทุนใหญ่มาจ่ายให้ประชาชนตอนเลือกตั้ง เมื่อพอเข้าไปเป็น ส.ส. ก็ไปเป็นขี้ข้านายทุนใหญ่ แต่ไทยภักดีจะใช้หัวจิตหัวใจ ใช้อุดมการณ์ในการต่อสู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น วันนี้ได้มาเยี่ยมเยียนชาวสมุทรปราการ ก็อดที่จะคิดถึงคดีทุจริตโครงการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านไม่ได้ ที่กินเวลามากว่า 20 ปี ประเทศเสียเงินภาษีประชาชนไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดต้องจ่ายค่าโง่อีก 9.6 พันล้านบาท
นพ.วรงค์ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง เพราะบริษัทเอกชนที่เข้ามารับเหมาประมูลมีความเชื่อมโยงไปถึงนักการเมืองบ้านใหญ่ของจังหวัดสมุทรปราการ ที่สุดท้ายชาวปากน้ำร่วมกันต่อสู้และออกมาแฉเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศและประชาชน จนทำให้นักการเมืองบ้านใหญ่ต้องหนีไปต่างประเทศ พรรคไทยภักดีต้องขอสดุดีชาวปากน้ำด้วย
“การเลือกตั้งครั้งนี้ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ เราเข้าใจว่าทุกคนจะคุ้นเคยกับนักการเมืองบ้านใหญ่ที่มีอิทธิพลและเงินเยอะ โดยมักจะนำเงินเหล่านี้มาแจกให้กับชาวบ้าน แต่เงินเหล่านี้ก็มาจากเงินทุจริตทั้งสิ้น ผู้สมัครของพรรคไทยภักดีแม้จะเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา เสียเปรียบคู่แข่งทุกด้าน แต่ที่เหนือกว่าคือหัวใจ วันนี้ชาวสมุทรปราการจะเลือกบ้านใหญ่และเข้าไปโกง หรือจะเลือกลูกชาวบ้านหัวใจนักสู้” นพ.วรงค์กล่าวทิ้งท้าย