วันนี้ (29 กันยายน) พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้กล่าวถึงประเด็นอาคารกาสิโนของกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บริเวณบ้านท่าเส้น-ทมอดา จังหวัดตราด ว่า ที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ดำเนินการ กดดันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กัมพูชาพิจารณาทำลายอาคารดังกล่าว และได้รับข้อมูลว่าขณะนี้ยังไม่มีการเข้าใช้ประโยชน์ในอาคารดังกล่าว
ว่าที่ ผบ.ทร. ยืนยันว่า ไทยไม่ได้นิ่งนอนใจหรือปล่อยให้อาคารตั้งอยู่ตรงนั้นเป็นการถาวร แต่จะต้อง ใช้มาตรการเจรจาและกดดันที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคงอื่น ๆ เพื่อให้กัมพูชาพิจารณาทำลายอาคาร เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มก่อตั้งสิ่งปลูกสร้าง
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวว่ามีชื่อนักการเมืองไทยเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างกาสิโนดังกล่าว พล.ร.อ.ไพโรจน์ ขอให้หน่วยงานในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้ และยืนยันว่าหน่วยงานความมั่นคงจะขอ เน้นไปที่เรื่องการปกป้องอธิปไตย เท่านั้น
สำหรับอาคารกาสิโนที่ท่าเส้น ว่าที่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ต้องรอพิจารณาข้อตกลงในการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา โดยมีแนวคิดว่า หากไม่สามารถตกลงกันได้และใช้ประโยชน์ร่วมกันไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีกดดันต่อไป แต่หากสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ อาจพิจารณาให้อาคารดังกล่าวเป็น อาคารตรวจการณ์ร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โดยย้ำว่าตนมองที่ประโยชน์ของอาคารในเชิงพื้นที่ ไม่ได้มองว่าเป็นกาสิโน
พล.ร.อ.ไพโรจน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำเพิ่มขึ้น นอกเหนือจาก 17 พื้นที่ในจังหวัดจันทบุรีและตราด ซึ่งบางจุดที่ไทยประท้วงไป ฝ่ายกัมพูชาก็หยุดสร้าง ส่วนบางจุดที่มีการสร้างถนนเมื่อพบว่าเลี้ยวเข้ามาในพื้นที่ไทย ก็มีการหลีกเลี่ยงไปทางอื่น โดยส่วนใหญ่ฐานที่มั่นทางทหารยังคงมีเฉพาะที่บ้านชำรากเท่านั้น
ว่าที่ ผบ.ทร. ยืนยันว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะ หารือร่วมกับทุกเหล่าทัพและประสานแผน ทั้งกองทัพภาคที่ 1 และ 2 รวมถึงกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเพิ่มความเข้มข้นในการกดดันยิ่งขึ้น โดยจะต้องควบคู่ไปกับแผนงานด้านเศรษฐกิจและการทูตของรัฐบาล
นอกจากนี้ กองทัพเรือยังพร้อมให้การสนับสนุนกองทัพภาคที่ 1 ในการดำเนินการขีดเส้นพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว วันที่ 10 ตุลาคมนี้ ที่ให้ชาวกัมพูชาอพยพออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยย้ำว่าทุกเหล่าทัพจะทำงานประสานกันและก้าวไปพร้อมกัน