วันนี้ (22 กันยายน) พล.ร.ต. วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากดีเปรสชันซูลิกเคลื่อนเข้าปกคลุมในหลายพื้นที่ของประเทศ อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ในการนี้กองทัพเรือ โดย พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือในทุกพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงสำรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น มีผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันนี้ ดังนี้
พื้นที่จังหวัดเชียงราย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ดำเนินการแจกจ่ายยารักษาโรคและถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ
นอกจากนั้นในส่วนของการฟื้นฟู ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ยังคงร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดำเนินการนำเครื่องจักรขุดโคลน ขยะ และพัฒนาเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านพักอาศัยให้กับประชาชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่จังหวัดหนองคาย, นครพนม, มุกดาหาร ไปจนถึงอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ได้จัดชุดเฝ้าระวังและสำรวจพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในการกระจายข่าวให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบและเตรียมการในการป้องกันได้อย่างทันท่วงที รวมถึงจัดถุงยังชีพและกระสอบทราย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนั้นยังได้เตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูหลังน้ำลดได้ในทันที
ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือภาคที่ 1-3 รวมถึงศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือในพื้นที่รับผิดชอบ ได้จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เตรียมความพร้อม รวมทั้งติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังเหตุอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการเตรียมความพร้อมให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที