วานนี้ (17 กรกฎาคม) ทัพนักกีฬาไทยชุดใหญ่ 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย แบดมินตัน, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, จักรยาน, มวยสากล, ว่ายน้ำ และเทเบิลเทนนิส ได้เดินทางถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเป็นที่เรียบร้อย
โดยหลังจากที่ผ่านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของฝ่ายจัดการแข่งขันที่สนามบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง พร้อมกับการตรวจเชื้อโควิดอีกครั้ง ทางทัพนักกีฬาได้เดินทางเข้าถึงหมู่บ้านนักกีฬาในโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียวประมาณ 6 กิโลเมตร
ดร.พิชิต เมืองนาโพธิ์ นักจิตวิทยาการกีฬาเบอร์ 1 ของไทย ที่เดินทางร่วมกับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกด้วย ได้โพสต์เล่าถึงบรรยากาศภายในหมู่บ้านนักกีฬาตั้งแต่โรงอาหารถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในหมู่บ้านปีนี้
เริ่มจากโรงอาหารครั้งนี้ จุดเริ่มต้นทุกคนจะต้องล้างมือตรงจุดให้บริการก่อนเข้าไปพบกับเมนูอาหารนานาชาติ โดยอาหารที่เสิร์ฟภายในโรงอาหารประกอบไปด้วยเมนูกว่า 700 ชนิด รวมถึงเมนูชื่อดังของญี่ปุ่น อย่างโอโคโนมิยากิและเทปันยากิ ซึ่งทาง เงือกจอย-เจนจิรา ศรีสอาด นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ได้ส่งภาพเมนูอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมสูงในโรงอาหารมาให้กับ THE STANDARD
พร้อมกันนี้ในโรงอาหารจะมีกล้องวงจรปิดไว้คอยตรวจจับความแน่นหนาของผู้คนในโรงอาหาร ซึ่งฝ่ายจัดก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยว่า มาตรการในโรงอาหารที่สามารถนั่งได้ประมาน 4,500 ที่นั่ง จะเปิดให้นั่งเพียง 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด และจะให้นักกีฬาแยกกันนั่งรับประทาน โดยมีกรอบพลาสติกกั้นระหว่างที่นั่ง
หลังรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนจะต้องนำถาดไปเก็บพร้อมกับแยกขยะ นอกจากนี้ในพื้นที่โรงอาหารยังมีบริการอื่นๆ เช่น ของหวานและกาแฟอีกด้วย
ดร.พิชิต ยังได้พบกับเจ้า E-Palette รถยนต์ไร้คนขับอัตโนมัติ ที่ใช้สำหรับการเดินทางของนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกภายในหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่ง E-Palette นี้จะมีเพียงเจ้าหน้าที่ช่วยประสานงานภายในรถยนต์
นอกจากนั้นพื้นที่ด้านนอกยังมีบริการน้ำดื่มสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านนักกีฬาอีกด้วย
สำหรับการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันที่สนามกีฬาโอลิมปิก
ภาพ: ดร.พิชิต เมืองนาโพธิ์ นักจิตวิทยาการกีฬา และผู้ฝึกสอนทัพนักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย