เปิดศักราชใหม่กับวงการฟุตบอลไทย 2018 หลังจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาทางสโมสรยักษ์ใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศได้เดินหน้าเสริมทัพกันอย่างคึกคัก หลังจากที่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา
วันนี้ THE STANDARD จะพาไปดูความพร้อมของแต่ละทีม บวกกับสิ่งที่น่าสนใจ และน่าจับตามองก่อนการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งแผนงานของสมาคมกีฬาฟุตบอล และบริษัท ไทยลีก จำกัด เริ่มต้นใช้งานอย่างเต็มที่ในฤดูกาลนี้
การส่งออกแข้งไทย และนำเข้าแข้งอาเซียน
เป็นหนึ่งข่าวดีส่งท้ายปีสำหรับวงการฟุตบอลไทย เมื่อ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา สโมสรฟุตบอลในเจลีก บรรลุข้อตกลงยืม ธีรศิลป์ แดงดา ไปร่วมทีมเป็นเวลา 1 ปี ส่งผลให้เจ้ามุ้ยเป็นนักฟุตบอลไทยคนที่ 2 ต่อจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ได้สร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับนักฟุตบอลไทยจนเป็นที่ยอมรับ และได้เปิดประตูแห่งโอกาสให้กับนักเตะคนอื่นได้เดินทางไปค้าแข้งในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ประเทศซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย
นอกจากธีรศิลป์ แดงดาแล้ว ยังมีการรายงานข่าวจากสโมสรจากประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจดึงตัวสตาร์ดังชาวไทยคนอื่นๆ ตั้งแต่ ธีราทร บุญมาทัน ทริสตอง โด หรือแม้กระทั่ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของไทย ที่เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาได้ลงฝึกซ้อมทักษะผู้รักษาประตูริมหาดแห่งหนึ่ง ยังได้รับการแชร์ไปไกลทั่วโลก จน L’Équipe สื่อชื่อดังของฝรั่งเศสได้แชร์คลิปการฝึกซ้อมอีกด้วย
แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็ได้แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของนักฟุตบอลไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในเวทีโลก และน่าสนใจว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้ฟุตบอลไทยจะสามารถลดช่องว่างกับทีมชั้นนำในเอเชียได้มากน้อยขนาดไหน หลังจากที่นักฟุตบอลไทยเริ่มได้รับโอกาสในสนามแข่งขันสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ไทยกำลังเดินหน้าส่งออกนักเตะสู่ญี่ปุ่น ในไทยลีกเอง นโยบายการเปิดโควตานักฟุตบอลอาเซียนในการแข่งขันไทยลีกก็ได้เริ่มต้นใช้งานอย่างเป็นทางการในการแข่งขันไทยลีก 1 โดยใช้ระบบ 3+1+1 ลงทะเบียนผู้เล่นต่างชาติใดก็ได้ 3 คน สัญชาติเอเชีย 1 คน และนักเตะจากอาเซียน 1 คน แต่ยังคงลงสนามได้ 3+1 เท่าเดิม
การเปิดใช้โควตาอย่างเป็นทางการทำให้สโมสรใหญ่ในไทยลีกเดินหน้าบุกตลาดอาเซียนด้วยการดึงสตาร์ดังจากทั่วภูมิภาคมาโลดแล่นในเวทีการแข่งขันไทยลีก
Photo: เชียงราย ยูไนเต็ด
เริ่มจากโปลิศ เทโร เอฟซี ที่ประกาศคว้าตัว อ่องธู ดาวยิงทีมชาติเมียนมา เช่นเดียวกับเชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้างเอฟเอคัพปีล่าสุด ก็ได้เปิดตัว จอ โค โค กองหน้าทีมชาติเมียนมา จากย่างกุ้ง ยูไนเต็ด รวมถึงชลบุรี เอฟซี ที่ได้ ซูลฟาห์มี อารีฟิน กองกลางทีมชาติสิงคโปร์มาร่วมทัพ
แชมป์เก่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็ไม่น้อยหน้า ดึงตัว ฮอง วู แซมสัน ศูนย์หน้าไนจีเรีย-เวียดนาม มาจาก ฮานอย ทีแอนด์ที เอฟซี ทีมดังของประเทศเวียดนามมาร่วมทีม
โดยจุดประสงค์ของการเปิดโควตานักเตะอาเซียนในไทยลีกครั้งนี้ ทาง พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง THE STANDARD ไว้ว่า จะเป็นการช่วยพัฒนาฟุตบอลในอาเซียน โดยเน้นการลดช่องว่างระหว่างลีกเพื่อยกระดับฟุตบอลในภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น เหมือนที่ญี่ปุ่นต้องการลดช่องว่างระหว่างทีมในเอเชียกับยุโรป โดยเปิดโควตาให้กับนักฟุตบอลอาเซียนเพื่อช่วยส่งเสริมวงการฟุตบอลในภูมิภาคให้แข็งแรงขึ้น
ซึ่งหากนักฟุตบอลอาเซียนประสบความสำเร็จในไทยลีก จะเป็นผลดีต่อทั้งฟุตบอลไทย และวงการฟุตบอลในบ้านเกิดของแต่ละประเทศอีกด้วย
โอกาสแชมป์เปิดกว้าง ทีมดังเสริมทัพดุช่วงท้ายปี 2017
ตลาดซื้อขายนักเตะในไทยลีกนอกจากการนำเข้านักฟุตบอลอาเซียนแล้ว สโมสรใหญ่ในไทยลีกยังเดินหน้าเสริมทัพกันอย่างดุเดือด เริ่มกันที่ทีมอันดับที่ 3 ของไทยลีก 2017 สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นครั้งใหญ่ เมื่อตัดสินใจปล่อยตัว ดราแกน บอสโควิช นักเตะต่างชาติตัวหลัก ที่เป็นดาวซัลโวในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งยิงไป 38 ประตู ให้กับทีมการท่าเรือ เอฟซี รวมถึงมีการปล่อยตัวนักเตะอย่าง โจโจ้ เจย์ซี จอห์น และกิลแบร์โต มาเชนา พ้นจากทีมอีกด้วย
Photo: แบงค็อก ยูไนเต็ด
แต่แข้งเทพก็ได้ 3 นักเตะบราซิลเลียนอย่าง วานเดอร์ หลุยซ์ และ เอเวอร์ตัน กอนซาเวส 2 นักเตะจากเชียงราย ยูไนเต็ด รวมถึง ร็อบสัน แฟร์นานเดส จากปารานา ซีรีบี ประเทศบราซิล นอกจากนี้ยังได้นักเตะดาวรุ่งชาวไทยอย่าง สิทธิโชค กันหนู มาร่วมทีมอีกด้วย
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือชาวบราซิลที่พาเชียงราย ยูไนเต็ดคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรกับช้างเอฟเอคัพ 2017 ก็ได้สตาร์คนดังของไทยลีกไปถึง 2 คนอย่าง เคลย์ตัน ซิลวา ศูนย์หน้าชาวบราซิลวัย 30 ปี จากเซี่ยงไฮ้ เซินซิน ในไชน่าลีกวัน ประเทศจีน รวมถึง กิลแบร์โต มาเชนา จากแบงค็อก ยูไนเต็ด
Photo: การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่เสริมทัพได้อย่างดุดัน โดยได้ ดราแกน บอสโควิช ดาวยิงวัย 31 ปีที่ยิงไปทั้งหมด 38 ประตูในไทยลีก รวมถึงได้นักเตะอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม และ บดินทร์ ผาลา สองนักเตะดีกรีทีมชาติไทยมาร่วมทีม พร้อมกับ การดึงตัว คิมซังฮวาน กองกลางชาวเกาหลีใต้วัย 30 ปี จากวุลซาน ฮุนได ในเคลีก ประเทศเกาหลีใต้มาร่วมทีม
Photo: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทำการเปิดตัว 30 นักเตะภายในงานบุรีรัมย์ เคานต์ดาวน์ 2018 พร้อมกับชื่อสนามเหย้าใหม่ ‘ช้างอารีนา’ โดยภายในรายชื่อ 30 คนนั้นมีการดันนักเตะดาวรุ่งจากอคาเดมีของสโมสรขึ้นมาเสริมทัพในฤดูกาลนี้
Photo: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
โดย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงให้คำมั่นสัญญากับแฟนบอลว่า “ฤดูกาลหน้าไม่ว่าใครจะอยู่หรือไป บุรีรัมย์จะเป็นแชมป์อีก”
ส่วนเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด ที่ดูจะเสียนักเตะหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่เดินรอยตามชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่ง ธีราทร บุญมาทัน ทริสตอง โด และกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ต่างมีข่าวว่าสโมสรจากต่างประเทศให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ทำให้แชมป์เก่าเมื่อปี 2016 อาจเสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น
แต่ทาง โค้ชแบน-ธชตวัน ศรีปาน ผู้ฝึกสอนทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดก็ได้ดึง 2 นักเตะไทยอย่าง เจนรบ สำเภาดี กัปตันทีมชาติไทยรุ่น U23 ปี จากโปลิศ เทโร เอฟซี และ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ มาร่วมทีม
ทำให้การลุ้นแชมป์ไทยลีกปีนี้น่าจะดุเดือดขึ้นกว่าการแข่งขันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือตลาดซื้อขายนักเตะสำหรับไทยลีก ฤดูกาล 2018 ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนจะปิดตลาดในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 นี้
อ้างอิง: