×

สโมสรไทยลีกชงโมเดลแยกไทยลีก 1 บริหารจัดการและหารายได้เอง ด้านลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันยังไม่ได้ข้อสรุป

โดย THE STANDARD TEAM
27.06.2023
  • LOADING...
ไทยลีก

วันนี้ (27 มิถุนายน) กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเป็นตัวแทนประชุมกับสโมสรเพื่อหารือเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกฤดูกาล 2023/24 ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ​ 

 

ในการประชุมครั้งนี้ทางบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้เน้นย้ำให้แต่ละสโมสรส่งตัวแทนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาร่วมประชุม ทำให้ในการประชุมครั้งนี้ประธานสโมสรของหลายทีมเดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง ทั้ง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี รวมถึง มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นต้น

 

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ในที่ประชุมนั้นได้มีการพูดถึงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่มีผู้เสนอมาไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ โดยมีการเผยว่ามีบริษัทหนึ่งยื่นประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยแบบครบวงจรแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น จึงทำให้เกิดการเสนอแนวความคิดที่ 16 ทีมในไทยลีกจะออกมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง คล้ายกับที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยทำ ซึ่งในที่ประชุมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และเห็นด้วยแบบมีเงื่อนไข รวมถึงยังมีบางทีมที่ไม่แสดงท่าทีใดๆ

 

ภายหลังการประชุม กรวีร์เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ได้เชิญสโมสรเข้ามาหารือการจัดการแข่งขันฤดูกาลใหม่ และให้ทราบสถานการณ์การประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และกระทบกับทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน จึงเชิญมาแจ้งและรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อให้ลีกได้เดินหน้าต่อ

 

“ในข้อเสนอแนะจากเสียงส่วนใหญ่ของ 16 ทีม คือการให้แต่ละสโมสรได้เข้ามาจัดการแข่งขันและหาสิทธิประโยชน์สำหรับฤดูกาลที่จะมาถึงเอง ในข้อสรุปของสโมสรจากที่ประชุมก็จะนำไปเสนอสู่นายกสมาคมฯ และสภากรรมการ ที่จะมีการประชุมในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้”

 

กรวีร์กล่าวต่อว่า ทั้ง 16 ทีมจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นร่วมกับสมาคมฯ เพื่อบริหารสิทธิประโยชน์ การจัดการแข่งขัน อาจจะมีการตั้งทีมบริหารขึ้นมาเพื่อทำการแข่งขัน แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยลงรายละเอียดกัน แต่เสนอในหลักการเท่านั้น

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการทำแบบนี้จะทันกับฟุตบอลลีกที่จะเปิดฤดูกาลในเดือนสิงหาคมหรือไม่นั้น กรวีร์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้จะต้องมีฟุตบอลแข่งขันอย่างแน่นอน เพราะไม่ฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อทุกองคาพยพของวงการฟุตบอลไทย เรื่องการแข่งขันกับสิทธิประโยชน์มันคนละส่วนกัน ทางไทยลีกและสมาคมฯ มีการเตรียมเพื่อให้มีสัญญาณการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว เหลือแค่ใครจะเป็นผู้รับสัญญาณนั้นไปถ่ายทอดสดเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่ยังไม่ได้รับข้อสรุป

 

จากประเด็นที่ว่ามีผู้ยื่นประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยด้วยเงินเพียง 50 ล้านบาทนั้น พาทิศกล่าวว่า มีผู้เสนอมามูลค่าแตกต่างกัน ทั้งราคาที่กล่าวมาก็มีจริง และจำนวนที่มากกว่า และยังมีแพ็กเกจที่แยกระหว่างบอลลีกกับทีมชาติอีก ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา เนื่องจากเราไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ จึงต้องเรียกมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร อาจจะมองหาข้อเสนออื่นๆ จากบริษัทอื่นที่สนใจอยากเจรจาโดยตรง หรือใช้ไอเดียและหลักการที่สโมสรเสนอเข้ามาได้

 

พาทิศกล่าวต่อว่า ไอเดียและหลักการที่เสนอมานั้น ที่จะมาหาสิทธิประโยชน์กับผู้ถือลิขสิทธิ์เอง เนื่องจากสโมสรมองว่าปัจจุบันถ้าไปขึ้นกับแพลตฟอร์มหรือสถานีใดๆ มันกลายเป็นขึ้นอยู่กับคนอื่น แต่ถ้าเราถ่ายทอดสดเอง มีแพลตฟอร์มของตัวเอง ก็ต่างไปจากเดิมที่รอผู้ซื้อลิขสิทธิ์ไป ซึ่งเรื่องการหารายได้เป็นเรื่องท้าทายที่ต้องศึกษา มันมีโมเดลจากต่างประเทศอยู่ เราไม่อยากให้พึ่งนโยบายบริษัทมากเกินไป จึงต้องหาอะไรที่เป็นของตัวเอง

 

“ตอนนี้เป็นหลักการที่นำมาแชร์กัน อยากให้สมาคมฯ และตัวแทนสโมสรไปหารายละเอียดเพิ่มเติมมาคุยกัน หลายทีมเป็นนักธุรกิจ รู้จักตลาดและด้านธุรกิจเป็นอย่างดี น่าจะมีไอเดียหรือโมเดลมานำเสนอกันได้” พาทิศกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแยกออกมาตั้งบริษัทใหม่นี้จะยังมีเม็ดเงินไปสนับสนุนลีกรองหรือไม่นั้น พาทิศกล่าวว่า ยังมีเหมือนเดิม เพื่อให้วงการฟุตบอลไทยยังแข็งแกร่งอยู่

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในที่ประชุมที่หารือเรื่องของการแยกออกมาเปิดบริษัทใหม่นั้น มีทีมที่เห็นด้วยและเห็นด้วยแบบมีเงื่อนไข 11 ทีม ส่วนอีก 5 ทีมที่เหลือยังไม่ขอออกความเห็น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising