×

กรวีร์ รักษาการประธานไทยลีก เตรียมคุยกับ ศบค. ขอจัดแข่งขันแบบปิด พาฟุตบอลไทยเดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19

06.01.2021
  • LOADING...
กรวีร์ รักษาการประธานไทยลีก

วันนี้ (6 มกราคม) แชมป์-กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้เปิดการประชุมออนไลน์ร่วมกับสื่อมวลชน เพื่อเปิดโอกาสให้ซักถามถึงการที่ฟุตบอลทุกลีกในประเทศถูกเลื่อนไปตลอดเดือนมกราคม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จนส่งผลกระทบต่อการแข่งขันและสโมสร โดยเฉพาะไทยลีก 3 ที่สโมสรสมาชิกมีมติร่วมกันตัดสินใจตัดจบฤดูกาล จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับอาชีพของนักเตะ 

 

โดยกรวีร์เริ่มต้นด้วยการอธิบายถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันออกไปตลอดเดือนมกราคม โดยไม่สามารถแข่งขันต่อเหมือนกับฟุตบอลในลีกต่างประเทศ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากข้อบังคับ มาตรการ และคำสั่ง รับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลในแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน 

 

โดยภายในประเทศไทย หากมีนักฟุตบอลติดโควิด-19 อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงการให้บางคู่ที่สามารถแข่งขันได้ลงแข่งขันไปก่อนนั้น จะส่งผลให้โปรแกรมช่วงท้ายฤดูกาลอาจเกิดการอัดแน่น และทำให้เกิดข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบ สำหรับการลุ้นแชมป์ ลุ้นหนีตกชั้น และการลุ้นขึ้นชั้น 

 

นอกจากนี้การที่ฟุตบอลในต่างประเทศสามารถแข่งขันต่อไปได้ เนื่องจากภายในลีกมีมาตรการตรวจเชื้อนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เป็นประจำระหว่างการแข่งขัน ซึ่งในประเทศไทย ศูนย์ตรวจหาโควิด-19 ตามพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ศูนย์อุดรธานี, สมุทรสงคราม, ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี สำหรับไทยลีก 3 ที่ก่อนหน้านี้ได้เคยทำสัญญาว่าจะตรวจเชื้อทีมฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดศูนย์ตรวจในพื้นที่ต่างๆ ได้ชี้แจงมาว่าไม่สะดวกที่จะตรวจเชื้อ เนื่องจากเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรไม่เพียงพอ รวมถึงทีมฟุตบอลไม่ใช่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จึงได้หยุดตรวจไปก่อน และฟุตบอลไม่สามารถแข่งขันได้หากไม่มีการตรวจเชื้อระหว่างการแข่งขัน

 

ในส่วนของไทยลีก 3 ที่สโมสรได้ประชุมร่วมกัน และมีมติตัดจบฤดูกาลนั้น ทางกรวีร์ได้ชี้แจงว่า ตามปกติแล้วไทยลีก 3 จะจบฤดูกาลภายในเดือนมกราคมนี้ โดยแต่ละสโมสรเหลือเกมการแข่งขันอยู่ประมาณ 5-6 เกม 

 

“จากการพูดคุยกับสโมสร ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการตัดสินใจตัดจบฤดูกาล เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดอาจใช้เวลานานกว่าจะสามารถกลับมาลงแข่งขันอย่างปลอดภัยได้ ซึ่งการตัดจบฤดูกาล ทางไทยลีกได้เปิดระเบียบดูเพื่อหาทีมเข้าไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในช่วงกุมภาพันธ์นี้” กรวีร์กล่าว 

 

นอกจากนี้ทางกรวีร์ได้ชี้แจงว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และไทยลีกได้ทำงานร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มาโดยตลอด และต่อจากนี้จะเตรียมทำแผนยื่นไปทาง ศบค. เพื่อขอแข่งขันฟุตบอลแบบปิด เพื่อหาแนวทางที่ปลอดภัยร่วมกัน ก่อนที่จะนำกลับมาพิจารณาร่วมกับสโมสรสมาชิก เพื่อให้ฟุตบอลไทยสามารถเดินหน้าแข่งขันต่อไปได้อย่างปลอดภัย 

 

ส่วนการแข่งขันแบบ Bubble ในรูปแบบของสนามกลางนั้น ทางไทยลีกได้ศึกษาจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ที่เตะสนามกลางไปก่อนหน้า และนำมาหารือกับสโมสรเพื่อปรับใช้ แต่ความท้าทายของการจัดการแข่งขันแบบสนามกลางคือ สำหรับไทยลีก 1 และ 2 ยังเหลือการแข่งขันอยู่เป็นจำนวนเป็น 100 นัด 

 

รวมถึงสมาชิกของสโมสรฟุตบอลหนึ่งมีไม่ต่ำกว่า 4-50 คน ดังนั้นสนามกลางที่จะสามารถจัดการแข่งขันได้ ต้องเป็นสนามที่ตัดขาดจากสังคมภายนอก สามารถรองรับนักเตะและทีมงานได้หลายร้อยชีวิตในพื้นที่เดียวกัน โดยต้องคำนึงถึงที่พัก สถานที่กักตัว สนามแข่ง และการเดินทางระหว่างการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม กรวีร์ยืนยันว่า ในเวลานี้จะไม่มีการตัดจบฤดูกาลสำหรับไทยลีก 1 และ 2 

 

“ในส่วนของรายได้จากจำนวนเงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เริ่มต้นคุยกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อขอเงินเยียวยาสำหรับนักกีฬาอาชีพ ซึ่งทาง กกท. ได้อนุมัติเงินมาแล้วมากกว่า 1 ล้านบาทสำหรับไทยลีก 1 และไทยลีก 2 และ 500,000 บาทสำหรับไทยลีก 3 โดยจะให้สโมสรสมาชิกบริหารจัดการกันอีกครั้ง” กรวีร์กล่าว 

 

กรวีร์กล่าวต่อไปว่า หากมีสัญญาณที่ดีขึ้น อาจมีการขยับมาเริ่มแข่งขันเร็วขึ้นได้ ซึ่งจะมีการแจ้งให้สโมสรทราบก่อนหน้าการแข่งขันอย่างน้อย 5 วัน โดยในส่วนของวันแข่งขันใหม่นั้น บริษัท ไทยลีก จำกัด จะมีการแจ้งให้ทราบในส่วนของรายละเอียดอีกครั้ง

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising