วันนี้ (6 ธันวาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยฐานะการเงินของประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผย ณ เดือนตุลาคม 2564 ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (Gross Reserves) ของไทย อยู่ที่ 2.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทที่ 8.17 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง โดยคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ทั้งนี้ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 1.2 ตามคาดการณ์ และจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 ในปี 2565 ภายใต้สถานการณ์โควิดยังคงอยู่และปรับตัวดีขึ้น
ทุนสำรองระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ เป็นกันชนให้ระบบเศรษฐกิจไทยในการรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนส่งผลกระทบต่อการนำเข้าส่งออกและราคาสินค้าซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่แท้จริงของประเทศได้ รวมทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างชาติใช้ประเมินความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศด้วย
“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด โดยเน้นการเปิดประเทศแบบปลอดภัย ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐผ่านเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท จากส่วนราชการประมาณ 6 แสนล้านบาท รัฐวิสาหกิจอีก 3 แสนล้านบาท สำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินที่เหลือจากพระราชกำหนดกู้เงินฯ อีกราว 3 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในภาคของการจ้างงาน ฟื้นฟูธุรกิจ/กิจการต่างๆ รวมทั้งการพิจารณาให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง และการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ทั้ง Cloud Service เทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ และการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยอีกด้วย” ธนกรกล่าว