สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือด่วน ลงวันที่ 22 เมษายน 2564 ถึงสื่อมวลชน
‘ร้องเรียนกรณีกำลังพลทหารกองทัพเรือกระทำการอันไม่เหมาะสม’ กรณีจับกุมนายทหารเรือยศเรือตรีที่แฝงตัวเข้าไปถ่ายภาพนักกีฬาในการแข่งขันยิมนาสติกลีลา จัดโดยกรมพลศึกษา ที่อาคารนิมิบุตร เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563
โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามได้เข้ายึดกล้องของนายทหารคนดังกล่าวหลังเกิดเหตุ และได้พบหลักฐานเป็นภาพถ่ายอนาจารของนักกีฬาหญิงจำนวนมากกว่า 1,000 รูป
ทาง น.ต. ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ ร.น. นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยผ่านสยามกีฬาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการแข่งขันยิมนาสติกลีลาที่อาคารนิมิบุตร ซึ่งจัดการแข่งขันในรูปแบบปิด จำกัดจำนวนผู้เข้าชม แต่นายทหารคนดังกล่าวใช้วิธีมาชมการแข่งขันบ่อยครั้ง และแฝงตัวเป็นผู้ปกครองเข้าไปถ่ายภาพ ซึ่งมีพฤติกรรมตั้งกล้องถ่ายต่ำ เน้นไปที่นักกีฬาหญิง ทำให้ผู้ปกครองและสโมสรสมาชิกสงสัย จึงแจ้งมาที่สมาคมฯ
“สมาคมฯ จึงจับตาดูพฤติกรรม กระทั่งวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม แต่นายทหารคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมขัดขืน แต่จำนนด้วยหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพถ่ายอนาจารนักกีฬาหญิงมากกว่า 1,000 ใบ ผู้ปกครองของนักกีฬาจึงดำเนินคดี
“เรื่องนี้สมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จากกรณีดังกล่าวยอมรับว่ามีนายทหารติดต่อขอเจรจาเพื่อขอให้ผู้ปกครองของนักกีฬาหญิงยอมความ แต่ผู้ปกครองยืนยันจะดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 เมษายนนี้ เวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน
ด้าน น.ท.หญิง มธุศร เลิศพานิช ร.น. รองโฆษกกองทัพเรือ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข่าวกรณีกำลังพลกองทัพเรือแอบถ่ายนักกีฬายิมนาสติก ช่วงค่ำของวันที่ 22 เมษายน ระบุว่า
“กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เร่งดำเนินการตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการกองทัพเรือจริงคือ ร.ต. อชิตะ เทพเสนา นายทหารพระธรรมนูญ สังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้แฝงตัวเข้าไปถ่ายภาพนักกีฬาขณะที่มีการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลา ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
“โดยสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือมาถึงกองทัพเรือ ให้พิจารณาสอบสวนและลงทัณฑ์ทางวินัย ซึ่งโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
“สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 16.30 น. ร.ต. อชิตะ ได้เข้าชมและบันทึกภาพนักกีฬาเด็กและเยาวชนหญิงในการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลาระหว่างโรงเรียนส่วนกลาง ประจำปี 2563 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งถูกรุมล้อมและยึดกล้องถ่ายรูปไปเพื่อตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องโดยผู้เกี่ยวข้องในการจัดการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลา ทั้งนี้ ร.ต. อชิตะ ถูกนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เพื่อดำเนินคดี
“คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พิจารณาการกระทำของ ร.ต. อชิตะ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ทำไปโดยขาดจิตสำนึกหรือวุฒิภาวะที่บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวจะพึงประพฤติปฏิบัติ จึงถือได้ว่า ร.ต. อชิต ปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ. 2551 อันเป็นความผิดในทางวินัย ฐานประพฤติตนไม่สมควร จึงให้ลงทัณฑ์และงดบำเหน็จครึ่งปีแรกของปี 2564 ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จประจำปีของข้าราชการทหาร พ.ศ. 2544”
โดยรองโฆษกกองทัพเรือย้ำว่า กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมตามกระบวนการทางกฎหมาย และจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ พล.ร.อ. ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ พร้อมทั้งจะกำชับกำลังพลในทุกระดับ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
อ้างอิง: