×

Thai Festival สะพานวัฒนธรรมไทย–เกาหลี เสริมพลังซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจ 2 ประเทศ

โดย THE STANDARD TEAM
07.09.2025
  • LOADING...
งาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 เชื่อมไทย–เกาหลีผ่านอาหาร ศิลปวัฒนธรรม และนวัตกรรม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม แต่สิ่งที่โดดเด่นและเป็นภาพจำของความสัมพันธ์สองประเทศ คือการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมและเทศกาลต่างๆ

 

สะท้อนชัดเจนผ่าน ‘Thai Festival’ ซึ่งไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ทั้งโขน มวยไทย และอาหารไทยที่หลากหลาย แต่ยังทำหน้าที่เป็น เครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ของไทยในสายตาประชาชนเกาหลี

 

ดังเช่นในงาน ‘Sawasdee Seoul Thai Festival 2025’ ที่ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลความบันเทิง แต่ยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างความเข้าใจและความใกล้ชิดระหว่างประชาชนไทยและเกาหลี ผ่านดนตรี การแสดง และอาหารที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความสนใจและสร้างสัมพันธ์เชิงบวกต่อประเทศไทยในระยะยาว พร้อมสะท้อนให้เห็นว่า ซอฟต์พาวเวอร์คืออีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เปิดเผยว่า Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 เป็นงานเทศกาลไทยในเกาหลีใต้ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ปีนี้มีความแตกต่างจากปีก่อนอย่างชัดเจน และถูกออกแบบเป็นงานฉลอง 10 ปี ภายใต้ธีมการนำเสนอวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยควบคู่กับวัฒนธรรมดั้งเดิม

 

กิจกรรมพิเศษในปีนี้ประกอบด้วย การประกวดร้องเพลง T-POP โดยผู้เข้าร่วมชาวเกาหลีและคนรุ่นใหม่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงการประกวดตำส้มตำ ที่ยังคงสร้างสีสันและความสนุกสนานเช่นทุกปี

 

นอกจากนี้ยังไฮไลต์สำคัญของงานคือ การขยายพื้นที่จัดงานเป็น 2 เท่าจากเดิม รวมถึงจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว ‘Innovation Zone’ เพื่อนำเสนอผลงานของสตาร์ทอัพจากประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีด้านการแพทย์สำหรับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงนวัตกรรมเพื่อชีวิตประจำวัน

 

อย่างไรก็ตาม ธานีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่เปิดโอกาสให้บัวขาว บัญชาเมฆ มาร่วมงานด้วย ซึ่งจะเป็นผู้นำขบวนพาเหรด นับเป็นครั้งแรกที่บัวขาวเข้าร่วมในเทศกาลนี้ 

 

นอกจากนั้น ในงานยังได้รับแรงสนับสนุนจากชุมชนไทยในเกาหลีใต้ รวมถึงจากนานาชาติ ทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมสมทบในขบวนพาเหรดด้วย ถือเป็นการแสดง พลังของความร่วมมือและมิตรภาพไทย-เกาหลีในระดับประชาชนด้วย

 

จุดเด่นสำคัญของงาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 มี 3 ด้านหลัก ได้แก่

 

  1. อาหารไทย: ถือเป็นแรงดึงดูดอันดับหนึ่งของชาวเกาหลีทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ที่นิยมอาหารไทยและมาร่วมงานเพื่อลิ้มรสความอร่อยโดยเฉพาะ
  2. ศิลปวัฒนธรรมไทย: โดยเฉพาะการแสดงนาฏศิลป์และโขนรามเกียรติ์ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นสิ่งที่ผู้ชมต่างชาติรอคอยทุกปี
  3. นวัตกรรมและการเชื่อมโยงธุรกิจ: ปีนี้จัดโซนนำเสนอผลงานสตาร์ทอัพและนวัตกรรมไทย เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ นักลงทุน และพันธมิตรในเกาหลีได้พบปะกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง

 

นอกเหนือจาก 3 ด้านหลักดังกล่าว งานยังต่อยอดสู่การโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ของไทย นอกจากเมืองที่ชาวต่างชาติคุ้นเคย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตแล้ว ยังมีผู้แทนจากจังหวัดสุโขทัย ขอนแก่น และพัทยา มานำเสนอเสน่ห์การท่องเที่ยวท้องถิ่น โดยเฉพาะการแสดงจากพัทยาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชมชาวเกาหลีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

 

สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจนั้น ธานีกล่าวว่า เนื่องจากการจัดงานในเดือนกันยายน ซึ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวของเกาหลีแล้ว เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจให้ชาวเกาหลีเดินทางท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่น และคาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด ซึ่งปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางเข้าไทยเกือบ 2 ล้านคน โดยกว่า 70-80% เคยมาเที่ยวไทยอย่างน้อย 1 ครั้ง บางรายมาแล้วถึง 2-3 ครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม งาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 ได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่แล้วตำรวจเกาหลีใต้ประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คนใน 2 วัน สำหรับปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 คน พร้อมขยายจำนวนบูธจากเดิม 34 บูธเป็น 75 บูธ และใช้พื้นที่จัดงานกว้างขึ้นถึง 2 เท่า ถือเป็นงานขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโซลที่ทางการเกาหลีให้ความสำคัญเรื่องมาตรการความปลอดภัยเป็นพิเศษ

 

เอกอัครราชทูตฯ ระบุอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของงานปีนี้ คือ คนเกาหลีรุ่นใหม่และคนไทยในเกาหลีที่มีอยู่ราว 200,000 คน โดยเครือข่ายคนไทยทั่วประเทศตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในฐานะผู้เข้าชม ผู้ร่วมเดินขบวนพาเหรด รวมถึงการแสดงนาฏศิลป์และบูธบริการต่างๆ เช่น สมาคมนวดไทยที่นำเสนอบริการนวดไทยฟรีให้กับผู้เข้าร่วมงาน งานจะจัดขึ้นในวันที่ 5–6 กันยายน 2568 ที่คลองชองเกชอน ใกล้จัตุรัสควางฮวามุน กรุงโซล

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสความนิยมศิลปิน T-POP ในเกาหลีนั้น งานนี้ถูกวางตัวเป็นเวทีสำหรับคนรุ่นใหม่ และเป็นพื้นที่ให้ศิลปินไทยทั้งที่มีชื่อเสียงแล้วและกลุ่มศิลปินหน้าใหม่ได้แสดงผลงานในระดับนานาชาติ โดยปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนชุดการแสดงเกือบทั้งหมด ยกเว้น แอลลี่ ที่ยังคงขึ้นเวทีต่อเนื่อง หลังจากปีที่แล้วได้รับความนิยมสูงจนมีแฟนๆ มารอตั้งแต่คืนก่อนหน้า สะท้อนความสำเร็จและการยอมรับของศิลปิน T-POP ในเกาหลีใต้

 

เอกอัครราชทูตฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า เทศกาลครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยผ่านอาหาร ศิลปวัฒนธรรม และดนตรี ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือทางธุรกิจไทย-เกาหลีในอนาคต

 

ขณะที่ นัยนชนก ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้าของแบรนด์ Emily’s เส้นหมี่ไก่ฉีก หนึ่งในร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จจากเมนูเส้นหมี่ไก่ฉีก เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่า “ตื่นเต้นและดีใจที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ เห็นทั้งคนไทยและคนเกาหลีมาต่อคิวจำนวนมาก ยิ่งรู้สึกภูมิใจที่ได้นำรสชาติแบบไทยๆ มาให้ทุกคนลอง หวังว่าเส้นหมี่ไก่ฉีกจะเป็นเมนูที่ทำให้คนนึกถึงประเทศไทย และถ้าได้มาเยือนไทย ก็อยากให้นึกถึงเมนูนี้”

 

นัยนชนกเสริมว่า อาหารไทยคือ ครัวของโลก ด้วยรสชาติที่ครบเครื่อง ทั้งเผ็ด เค็ม เปรี้ยว หวาน ทำให้เป็นที่นิยมในหลายประเทศ และถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญของไทย การได้เห็นคนเกาหลีให้ความสนใจมากขนาดนี้ ทำให้เธอภูมิใจยิ่งขึ้น

 

สำหรับการเข้าร่วมงานนั้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มาเกาหลีใต้ แต่เป็นครั้งที่สองที่ออกบูธในต่างประเทศ หลังจากเคยไปสิงคโปร์มาแล้ว โดยมองว่าการร่วมงานลักษณะนี้คือการ ทดลองตลาด หากที่ไหนได้รับการตอบรับดีก็พร้อมลงทุนต่อยอด

 

“รอบนี้เราขนวัตถุดิบมาเต็มที่แบบไม่อั้น ลูกค้าต่อคิวแค่ไหนก็พร้อมทำตลอด ตั้งเป้าไว้สองวันนี้ขายได้ราวพันจานก็ดีใจแล้ว แต่ถ้ามีมากกว่านั้นก็พร้อมเสิร์ฟเต็มที่ค่ะ”

 

สำหรับการเตรียมวัตถุดิบ บางส่วนสามารถหาซื้อได้ในเกาหลี เช่น เนื้อสัตว์ แต่สิ่งที่ต้องนำเข้าจากไทยคือบรรจุภัณฑ์และแพ็กเกจจิง เพื่อคงมาตรฐานและภาพลักษณ์ตามต้นแบบ ให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนทานที่ประเทศไทย

 

ด้วยเรื่องราวเช่นนี้ งาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 จึงไม่เพียงเป็นพื้นที่แสดงศิลปวัฒนธรรมและความบันเทิง แต่ยังเป็นเวทีที่เชื่อมโยงมิติทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน การที่อาหารไทยและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้รับความสนใจจากชาวเกาหลี แสดงให้เห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ได้สะท้อนเพียงเอกลักษณ์ชาติ แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising