กระทรวงพาณิชย์คาดยอดส่งออกปีนี้โตเกินเป้าที่วางไว้ 2-3% หลังสองเดือนแรกโตเฉลี่ย 13.8% พร้อมกลับมาเกินดุลการค้าอีกครั้ง หลังเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก เช่น จีน ยุโรป อินเดีย กลับมาฟื้นตัว
พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 14% เป็น 2.67 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9 แสนล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนมกราคมที่เติบโต 13.6% รวมสองเดือนแรกของปีนี้การส่งออกขยายตัว 13.8% เป็น 5.19 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.76 ล้านล้านบาท
ขณะที่การนำเข้าเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 4% เป็น 2.47 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 8.48 แสนล้านบาท รวมสองเดือนแรกขยายตัว 6% เป็น 5.18 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ดุลการค้ากลับมาเกินดุลอีกครั้งราว 108 ล้านดอลลาร์ หลังจากขาดดุลในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“การส่งออกในเดือนมีนาคมเชื่อว่าจะขยายเพิ่มขึ้น เนื่องจากการลงทุนเข้ามามากขึ้น หลายโรงงานจะสามารถผลิตเพื่อส่งออกได้มากขึ้น ตอนนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยเดินแล้ว ส่งออกขยายตัวน่าพอใจในสองเดือนแรก การลงทุนก็น่าจะมากกว่าปีก่อน นักท่องเที่ยวก็น่าจะไปถึง 39 ล้านคน ปัญหาที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดีคือปัญหาหนี้ ถ้าสามารถแก้ได้เศรษฐกิจไทยจะโตอย่างมีศักยภาพ เห็นตัวเลข 5-6% ได้ ตอนนี้ขาดเรื่องการบริโภคซึ่งเป็นเรื่องใหญ่อย่างเดียว”
ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – กุมภาพันธ์ 2568 ขยายตัวเฉลี่ย 11.8%
ตุลาคม +14.6%
พฤศจิกายน +8.2%
ธันวาคม +8.7%
มกราคม +13.6%
กุมภาพันธ์ +14%
ส่วนทั้งปี 2567 ขยายตัว 5.4% ด้วยมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้าน พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดิมทีคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกทั้งปีจะอยู่ที่ราว 2-3% แต่ตอนนี้แนวโน้มสองเดือนแรกออกมาดี มีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขทั้งปีจะสูงกว่า 3% เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญเริ่มขยายตัว ทั้ง จีน ยุโรป เอเชียใต้ เช่น อินเดีย ลาตินอเมริกา
สินค้าสำคัญที่ขยายตัวช่วงสองเดือนแรก ได้แก่
- สินค้าอุตสาหกรรม +17.1% มูลค่า 4.26 หมื่นล้านดอลลาร์
- เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ +48.2% มูลค่า 4.48 พันล้านดอลลาร์
- อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) +122.6% มูลค่า 4.05 พันล้านดอลลาร์
- สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร +6.7% มูลค่า 3.73 พันล้านดอลลาร์
- ผลิตภัณฑ์ยาง +18.4% มูลค่า 2.55 พันล้านดอลลาร์
- เครื่องปรับอากาศ +33% มูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์
- ยางพารา +40% มูลค่า 1.04 พันล้านดอลลาร์
- ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป +10.8% มูลค่า 749 ล้านดอลลาร์
- อาหารสัตว์เลี้ยง +13.7% มูลค่า 507 ล้านดอลลาร์
- ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป +23.8% มูลค่า 502 ล้านดอลลาร์
- ผลไม้กระป๋องและแปรรูป +18.1% มูลค่า 362 ล้านดอลลาร์
ส่วนสินค้าเกษตร -1.9% มูลค่า 4.04 พันล้านดอลลาร์ และผลไม้สด -6.7% มูลค่า 304 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยหนุนการส่งออกที่สำคัญในช่วงถัดไปคือ สินค้าเกษตรจะกลับมาเติบโตหลังจากผลผลิตเริ่มทยอยออกตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเฉพาะผลไม้สดซึ่งคาดว่าผลผลิตจะมากกว่าปีก่อน
สำหรับไตรมาสแรกคาดว่าการส่งออกจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงสองเดือนแรกยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก
“ตัวเลขส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือนติดต่อกัน การขยายตัวล่าสุดไม่ได้เกินคาด และปีนี้มีโอกาสที่จะเห็นมูลค่าการส่งออกทำสถิติใหม่ได้อีกครั้ง”