วันนี้ (30 กันยายน) ที่สี่แยกห้วยขวาง รัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ เครือข่ายปกป้องผู้ประกอบการไทย พร้อมด้วย นรุตม์ชัย บุนนาค คณะทำงาน ร่วมกับแนวร่วมผู้ประกอบการ SMEs ไทย แถลงข่าวระหว่างลงพื้นที่ย่านห้วยขวางเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายกับสินค้าต่างชาติที่ทะลักเข้ามาวางขายอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐที่ปล่อยให้สินค้าเถื่อนของต่างชาติทะลักเข้ามาในประเทศจนกระจายอยู่ทุกมุมเมือง
โดยนำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบร้านค้าที่ลักลอบขายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ราคาสินค้าต่ำเกินจริง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs ไทย ซึ่งถูกทุนต่างชาติเข้าครอบครองจนทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหลายแห่งต้องปิดตัวลงเนื่องจากไม่สามารถแข่งขันได้ ขณะเดียวกันยังนำหลักฐานซึ่งได้จากการลงพื้นที่มาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายการนำเข้าอย่างถูกต้องตามมาตรฐานของประเทศไทย
“ไม่มีฉลากภาษาไทย หรือมีการทำฉลากภาษาไทยขึ้นเอง ไม่ใช่ฉลากที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. จึงไม่ผ่านมาตรฐานและคุณภาพความปลอดภัยสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย อันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งยังหลบเลี่ยงภาษีนำเข้า ทำให้ราคาสินค้าต่ำเกินจริง” รัตนมงคลกล่าว
เครือข่ายฯ เห็นด้วยและขอสนับสนุนท่าทีของผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจริงจังในการจัดการกับสินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ด้วยความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่และการเรียกรับสินบน
“เราขอตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เหตุใดจึงปล่อยให้มีการหลบเลี่ยง การนำผลิตภัณฑ์เข้ามาวางขายในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และปล่อยให้หลบเลี่ยงการเสียภาษีและนำสินค้าที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานของประเทศไทย มาวางจำหน่ายในทุกมุมเมืองได้อย่างเสรี”
กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสินค้า เหตุใดจึงปล่อยให้นอมินี ซึ่งใช้ตัวแทนคนไทยถือหุ้น เข้ามาครอบงำธุรกิจในประเทศได้อย่างไร้การควบคุม
กรมศุลกากร เหตุใดจึงปล่อยให้การนำเข้าสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายไทยเข้ามาขายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชำระภาษีนำเข้า หรือการมีใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องตรวจสอบสินค้าที่วางจำหน่ายในท้องตลาดอย่างเข้มงวด เพราะจากการตรวจสอบพบว่าสินค้าจำนวนมากไม่มีฉลากภาษาไทยและไม่ได้รับรองมาตรฐานของ อย. ยังคงวางจำหน่ายได้อย่างเปิดเผย
กระทรวงการคลัง และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ต้องบูรณาการความร่วมมือ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใช้ช่องทาง USTD ในการทำธุรกรรม ที่ส่อว่าอาจเป็นช่องทางสำคัญในการฟอกเงินและหลบเลี่ยงการชำระภาษีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
เครือข่ายฯ ไม่อาจนิ่งเฉยต่อปัญหาใหญ่ของประเทศได้ เราขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา หยุดการคอร์รัปชันตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งเป็นหายนะสำคัญทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขอให้บังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องผู้ประกอบการของประเทศเรา โดยนำโมเดลของเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมาต่อยอด
ขณะเดียวกัน รัฐต้องออกมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศ เช่น การลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง และรัฐต้องสนับสนุนแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นและคนตัวเล็ก เพื่อเป็นแต้มต่อสำคัญในการแข่งขันกับทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ จะพยายามประสานงานกับทุกหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด ลักลอบเปิดร้านค้าโดยไม่มีใบอนุญาต ลักลอบนำสินค้าเข้ามาขายอย่างผิดกฎหมาย, ไม่เสียภาษี, ไม่มี อย. หรือส่อว่าอาจมีการฟอกเงิน สามารถแจ้งมาได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=61566485274896&mibextid=ZbWKwL