ปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เผยเศรษฐกิจไทย 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2562 ส่งสัญญาณอ่อนแรง เห็นได้จากการส่งออก และการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยก็ขยายตัวในระดับต่ำ มีเพียงการบริโภคภาคเอกชนเท่านั้นที่ขยายตัวจากแรงหนุนมาตรการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ
หากมองช่วงที่เหลือของปี 2562 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังพบกับความท้าทายและขาดปัจจัยหนุน แม้ความตึงเครียดจากสงครามการค้าจะผ่อนคลายลงจากการสงบศึกของสหรัฐอเมริกาและจีน แต่ทิศทางเศรษฐกิจโลกจะยังคงชะลอตัวจากความซบเซาของการค้าโลก ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็ว โดยแข็งค่าขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี และยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าอีก รวมทั้งการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ คาดว่าน่าจะกระทบความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย ทำให้ทั้งปีนี้การส่งออกอาจจะไม่ขยายตัว
กกร. จึงปรับประมาณการส่งออกของไทยทั้งปี 2562 ลงมาที่ -1 ถึง 1% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3-5% แม้รัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลจากการส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ดังนั้นคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP จะขยายตัว 2.9-3.3% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 3.7-4 % สำหรับอัตราเงินเฟ้อยังคงไว้ที่กรอบเดิมคือ 0.8-1.2%
นอกจากนี้ กกร. ได้ทำข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายการยกระดับคุณภาพแรงงานไทย ประกอบด้วยการปรับขึ้นค่าจ้าง ควรขึ้นตามความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไตรภาคี การเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน การพัฒนาฝีมือแรงงาน และการเพิ่มกำลังคนทดแทนเพื่อพิจารณาต่อไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- สำนักงานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)