×

นายกฯ รับทราบรายงาน BOI ยอดขอการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น 49% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567

โดย THE STANDARD TEAM
23.10.2024
  • LOADING...
รายงาน BOI

วันนี้ (23 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ว่ามีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก และกำชับให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยเร่งดำเนินนโยบายและแนวทางอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพิ่มปริมาณการเข้าลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น

        

จิรายุกล่าวต่อไปว่า BOI รายงานว่า มีตัวเลขคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 พบว่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยมีจำนวนมากถึง 2,195 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    

ส่วนมูลค่าเงินลงทุนมีมากถึง 722,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 42 ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนในภูมิภาคนี้ และการขอรับการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นยอดลงทุนที่สูงสุดในรอบ 10 ปี 

 

กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก อันดับที่ 1 คือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท อันดับ 2 กลุ่มดิจิทัล มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท อันดับ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 6.7 หมื่นล้านบาท อันดับ 4 กลุ่มเกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท และอันดับ 5 กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ มูลค่า 3.4 ล้านบาท

       

สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุดมีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริม 1,449 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เงินลงทุนรวมกว่า 546,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 

 

ประเทศที่มีมูลค่าขอรับการส่งเสริมสูงสุด 5 อันดับแรกคือ สิงคโปร์ 1.8 แสนล้านบาท จีน 1.1 แสนล้านบาท ฮ่องกง 6.8 หมื่นล้านบาท ไต้หวัน 4.4 หมื่นล้านบาท และญี่ปุ่น 3.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังพบว่าเงินลงทุนสูงสุดอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา 4.08 แสนล้านบาท ภาคกลาง 2.2 แสนล้านบาท ภาคเหนือ 3.5 หมื่นล้านบาท ภาคใต้ 2.5 หมื่นล้านบาท ภาคอีสาน 2.3 หมื่นล้านบาท และภาคตะวันตก 8.8 พันล้านบาท 

     

ส่วนการขอรับการส่งเสริมตามมาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart and Sustainable Industry) ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายเดิมให้สามารถปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 287 โครงการ เงินลงทุนรวม 2.7 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการออกบัตรส่งเสริมในช่วง 9 เดือนแรกของปี มีจำนวน 2,072 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 59 เงินลงทุน 6.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ทั้งนี้ การออกบัตรส่งเสริมเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงการลงทุนจริงมากที่สุด โดยปกติบริษัทต่างๆ จะเริ่มทยอยลงทุนภายใน 1-3 ปี หลังจากออกบัตรส่งเสริม

 

“ตัวเลขการลงทุนสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่ดีของประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเดินหน้าเร่งพัฒนาระบบนิเวศและปัจจัยที่จะส่งผลต่อการลงทุน เพื่อรองรับกับสถานการณ์การเคลื่อนย้ายฐานการผลิตโลก ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว” จิรายุกล่าว

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising