สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์ และผู้เขียนหนังสือ The Great Remake ออกมาเตือนถึง 3 ความท้าทายใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในปี 2024 และในขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจหากไทยสามารถโต้คลื่นความเสี่ยงเหล่านี้ได้ดี ประกอบไปด้วย
1. ความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความซบเซาอยู่พอสมควร โดยเฉพาะจีนที่อยู่ในสถานะไม่ดีเท่าไร และอาจไม่สามารถเป็น Engine of Growth ให้กับโลกเหมือนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าผลกระทบย่อมมาถึงไทยที่พึ่งพาจีนผ่านการส่งออกและการท่องเที่ยวสูง
ขณะที่ในฝั่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญของไทย แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) แต่ก็คาดว่าในปีหน้าจะมีโอกาสเกิดภาวะถดถอยแบบอ่อนๆ (Mild Recession) ได้เช่นกัน จากดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องค่อนข้างเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าผลกระทบย่อมมาถึงภาคการส่งออกไทยอีกเช่นกัน
ในด้านโอกาส สันติธารระบุว่า การได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศในยามที่เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกได้ลดลง อาจเป็นโอกาสของไทยที่จะหาเครื่องยนต์ใหม่ เช่น การลงทุนและการบริโภคภายในประเทศเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทดแทนการส่งออก
โดยปกติรัฐบาลใหม่จะเน้นกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ เราคงต้องรอดูว่าในปีหน้าเราจะสามารถเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาการส่งออกมาเป็นพึ่งอุปสงค์ในประเทศและการลงทุนในประเทศผ่านนโยบายภาครัฐได้หรือไม่ แต่ก็ต้องระวังให้มาตรการกระตุ้นไปอย่างสมเหตุสมผล ตรงเป้า ไม่มากไปน้อยไป ไม่กระทบเสถียรภาพ ซึ่งเป็นทั้งโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายและเป็นโอกาสในการ Shift Growth ของไทย” สันติธารระบุ
2. ความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีความเข้มข้นขึ้นทั้งในรูปแบบของ Trade War และ Tech War เพราะจะเป็นปีที่สหรัฐฯ มีการเลือกตั้ง ทำให้ความตึงเครียดที่มีต่อจีนและรัสเซียจะเพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงเรื่อง Supply Chain Disruption ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย
อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้ก็มีมุมบวกเหมือนกัน เพราะเมื่อยักษ์ใหญ่ตีกัน อาเซียนอาจเป็นตาอยู่ที่ธุรกิจเลือกย้ายฐานการผลิตเข้ามา ซึ่งไทยจะเป็นหนึ่งในชาติที่ได้อานิสงส์จากตรงนี้ แต่ก็ต้องแข่งขันกับเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ และเวียดนาม
“รัฐบาลชุดปัจจุบันดูให้ความสำคัญกับการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามา มีการไปคุยกับบริษัทระดับท็อปของโลกหลายแห่ง ซึ่งเป็นจังหวะที่ดี แต่การลงทุนที่เข้ามาควรเป็นอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างความสามารถทางการแข่งขันและเพิ่มทักษะให้กับแรงงานไทยด้วย เราไม่ควรสนใจแค่เฉพาะเม็ดเงินอย่างเดียว” สันติธารให้ความเห็น
3. ความท้าทายด้านเทคโนโลยี จากการที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุค Digital Transformation ไปสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงหลายๆ อุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยเรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศว่าจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ตามทันได้อย่างไร อาจมีคนจำนวนมากต้องเสี่ยงตกงาน
แต่ในอีกด้านก็สามารถมองเป็นโอกาสของไทยที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาชดเชยแรงงานมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งความท้าทายที่ไทยไม่สามารถมองข้ามได้เช่นกัน คือ ความยั่งยืน หรือ Sustainability หลังจากที่ราคาพลังงานโลกเริ่มกลับมาสูงอีกครั้งหนึ่ง และในขณะเดียวกันก็เริ่มมีกระแสต่อต้านกองทุน ESG ต่างๆ ที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และถูกมองเป็น Greenwashing ทำให้โลกอาจเผชิญความท้าทายที่เป็นชักเย่อดึงกลับไปกลับมาระหว่างธุรกิจสีเขียวกับธุรกิจรูปแบบเดิม
“การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไปสู่พลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ EV ยังไปข้างหน้าอยู่ แต่เราอาจได้เห็นการกระชากกลับเป็นช่วงๆ ตามทฤษฎีที่บอกว่า ยิ่งมี Force แรง Reaction ก็แรงตาม โดยธีมทั้งหมดที่เราพูดมานี้ถือเป็นความท้าทายอย่างเร่งด่วนของไทย แต่ก็เป็นโอกาสไปพร้อมๆ กัน ถ้าเราสามารถขี่คลื่นเหล่านี้ได้ เราก็จะพุ่งไปข้างหน้าได้เร็วกว่าคนอื่น” สันติธารกล่าว
เทรนด์โลกปี 2024 จะไปในทิศทางไหน? ประเทศไทยจะเตรียมความพร้อมอย่างไรให้ไม่ตกขบวน? มาร่วมกันหาคำตอบแบบเจาะลึกจากผู้นำระดับโลกและไทยกว่า 40 คน ได้ที่งาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023: FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยไล่ล่าอนาคต
โดยสามารถพบกับ สันติธาร เสถียรไทย ได้บนเวทีที่ฉายภาพความท้าทายในอนาคต เมื่อ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งในโลกการทำงานและธุรกิจ
บัตร Early Bird ลดสูงสุดถึง 40% หนึ่งใบสุดคุ้ม!
- เข้างานได้ 3 วันเต็ม
- เข้าฟัง Conference ได้ครบทุก Session
- รับสิทธิ์ดูย้อนหลัง ฟรี! 3 เดือน
https://thestandard.co/zipeventapp/e/Economic-Forum-2023/055
วันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2566
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)