จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย ได้เข้าร่วมพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน ณ มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ที่จัดขึ้นวานนี้ (26 เมษายน) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นนครรัฐวาติกัน ซึ่งช้ากว่าประเทศไทยเป็นเวลา 5 ชั่วโมง
ชูศักดิ์ ศิรินิล พร้อมด้วย พรรณนภา จันทรารมย์ (ว่าที่) เอกอัครราชทูตประจำนครรัฐวาติกัน และ ธเนศ กิตติธเนศวร เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ขณะที่ ธัชสิทธิ์ ประสิทธิรัตน์ อุปทูตฯ ประจำนครรัฐวาติกัน เข้าร่วมในส่วนของคณะทูตานุทูต
เมื่อคณะเดินทางถึงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ชูศักดิ์ ศิรินิล และคณะ ได้เข้าพบพระคาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน (Pietro Parolin) เลขาธิการสันตะสำนักในสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
พิธีปลงพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ โดยเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น. และเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 12.10 น. โดยมีพระคาร์ดินัลโจวานนี บัตตีสตา เร (Cardinal Giovanni Battista Re) ประธานคณะพระคาร์ดินัลทั่วโลก เป็นประธานในพิธี
พิธีพระศพเริ่มต้นด้วยการเคลื่อนย้ายโลงพระศพจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ออกมายังหน้าวิหารบริเวณลานด้านหน้าเพื่อประกอบพิธีปลงพระศพ จากนั้นเป็นพิธีกรรมทางศาสนา โดยมีการสวดมนต์เป็นภาษาละตินและภาษาหลักต่างๆ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระสันตะปาปา ผู้ทรงยึดมั่นในความเมตตาและความยุติธรรม โดยไม่มีเครื่องประดับหรือการตกแต่งที่หรูหราเกินจำเป็น ตามพระประสงค์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ที่ต้องการให้งานศพสะท้อนความถ่อมตน ให้เน้นความเรียบง่ายและการมีส่วนร่วมของสาธารณชน ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายพระศพไปฝังที่วิหาร Santa Maria Maggiore Basilica ในกรุงโรม
พิธีในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 150 ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงเชื้อพระวงศ์ ประมุขของรัฐ และผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลจำนวนมาก ทั้งยังมีประชาชนผู้ศรัทธาอีกกว่า 2 แสนคนเข้าร่วม เช่น สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งสเปน, เจ้าชายแห่งเวลส์, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, ประธานาธิบดีฝรั่งเศส, ประธานาธิบดีบราซิล, ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา, ประธานาธิบดียูเครน, ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์, นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, นายกรัฐมนตรีสวีเดน และนายกรัฐมนตรีฮังการี เป็นต้น
โดยในโอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิสสิ้นพระชนม์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีสารแสดงความเสียใจถึงประธานคณะพระคาร์ดินัลทั่วโลก เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้เป็นดั่งดวงประทีปแห่งความเมตตากรุณา ความอ่อนน้อมถ่อมตน และจริยธรรม พร้อมกับนับถือความมุ่งมั่นของสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกัน ภายใต้การนำของสมเด็จพระสันตะปาปาในการส่งเสริมสันติภาพ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยการเสด็จเยือนประเทศไทยของพระองค์เมื่อปี 2562 ยังคงเป็นความทรงจำที่มีค่าของประชาชนไทย
ทั้งนี้ ในช่วงเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 คณะผู้แทนพิเศษได้พบกับ พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ที่นครรัฐวาติกันด้วย โดยภารกิจในครั้งนี้มีผู้แทนจากนครรัฐวาติกันมารับที่สนามบิน และมีรถตำรวจนำขบวน อำนวยความสะดวกคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทยตลอดภารกิจ