วันนี้ (3 มีนาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการที่ประชุม ครม. ให้ไปศึกษาแนวคิดที่จะสร้างกำแพงระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการข้ามกำแพงผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้าขายยาเสพติด และสินค้าหนีภาษี โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พูดคุยกับประเทศกัมพูชาว่าถ้าจะทำนั้นทำในรูปแบบไหน ผลออกมาเป็นอย่างไร จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ยืนยันว่าเป็นเพียงการศึกษาเพื่อปิดเส้นทางออกนอกประเทศ
ส่วนที่กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้ร้องขอติดตั้งอุโมงค์เอ็กซเรย์บริเวณด่านไทย-กัมพูชา จะต้องไปศึกษาต่อ และนายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องตรวจอย่างเข้มข้น ตู้คอนเทนเนอร์ก็ต้องตรวจว่าเป็นสินค้าอะไร ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาราคาว่าจะใช้จำนวนเท่าไรและสามารถป้องกันของหนีภาษี บุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าลักลอบชายแดน ได้หรือไม่
พร้อมสั่งหน่วยงานความมั่นคงศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการตรวจสอบคนเข้าออกเดินทางอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนก็เคยสำรวจว่าพรมแดนช่องทางธรรมชาติ 51 อำเภอมีเส้นทางย่อยออกไปอีกเป็น 100 จุด ทั้งที่เป็นทางเดินป่าและข้ามแม่น้ำเล็กๆ พิจารณาการตั้งกล้อง CCTV ที่มีเทคโนโลยี AI เพื่อให้จับภาพหน้าบุคคลและตรวจสอบได้
ครม. ไฟเขียวงบกลางฉุกเฉิน 153.03 ล้านบาท เพื่อจัดงานสงกรานต์
จิรายุระบุว่า ครม. มีมติเห็นชอบตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอพิจารณาอนุมัติงบกลางปี 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินวงเงิน 153.03 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน Maha Songkran 2025 World Water Festival ที่บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11-25 เมษายน 2568
ทั้งนี้ รายจ่ายแบ่งเป็น การจัดกิจกรรม ณ ท้องสนาม 93.26 ล้านบาท, การจัดขบวนพาเหรด 48 ล้านบาท และการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 11.77 ล้านบาท นอกเหนือจากงบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2568 จำนวน 40 ล้านบาท โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า การจัดกิจกรรมที่สนามหลวงจะทำให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากกว่า 8 แสนคน คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนช่วงการจัดงาน 3.2 พันล้านบาท
