ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด คือภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสองค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่อย่าง เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส และ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยได้ อุเทน ศรีริวิ ที่เคยสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมมาแล้วใน ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้ (2557) กลับมาถ่ายทอดเรื่องราวอบอุ่นหัวใจท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนาแดนอีสานอีกครั้ง
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ เคน (โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) ผู้บ่าวไทบ้านที่ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดแดนอีสาน แต่แล้วชีวิตของเขาก็พลิกผัน เมื่อ เฟิร์น (แอน อรดี) สาวโรงงานที่กำลังวางแผนประชดรักแฟนหนุ่ม ได้ขอให้เคนแกล้งมาเป็นแฟนตัวปลอมของตัวเอง แต่ภารกิจรักหลอกๆ นี้กลับปั่นป่วนยิ่งขึ้น เมื่อบุพเพเริ่มอาละวาดทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักกันจริงๆ
ความโดดเด่นข้อแรกของ ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด ที่เรารู้สึกประทับใจมากๆ คือการถ่ายทอดวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของแดนอีสานให้เราได้สัมผัสอย่างอบอุ่น ทั้งฉากการทำอาหารที่ชวนให้เราต้องท้องร้อง บรรยากาศทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ความสัมพันธ์ของผู้คนในหมู่บ้านที่สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี และเสียงหัวเราะอันครึกครื้นที่ทำให้เราต้องอมยิ้มตามไปด้วย
นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังอบอวลไปด้วยฉากโรแมนติกของคู่พระนางอย่าง โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ (แสงกระสือ) และ แอน อรดี นักร้องลูกทุ่งเสียงอีสาน ที่เคมีเข้ากันอย่างลงตัว และทั้งคู่ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองเพื่อนำเสนอปมปัญหาที่ตัวละครต้องแบกรับได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เริ่มต้นที่ เคน ชายหนุ่มที่เป็นตัวแทนของคนอีสาน ที่ออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสวงหาความมั่นคงในชีวิต แต่โลกทุนนิยมอันโหดร้ายกลับบีบคั้นให้เขาตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อหวนคืนสู่วิถีชีวิตแสนเรียบง่าย พร้อมกับความฝันเล็กๆ ที่อยากจะเปิดร้านลาบเป็นของตัวเอง ขณะที่ เฟิร์น สาวโรงงานที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเสาหลักของครอบครัวเพื่อเลี้ยงดูแม่กับน้องสาวให้สุขสบาย และช่วยเหลือพ่อที่กำลังทำงานขับแท็กซี่อยู่กรุงเทพฯ ได้กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอีกครั้ง
เรื่องราวของ เคน และ เฟิร์น จึงไม่ได้ทำหน้าที่พาเราไปติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่เท่านั้น แต่พวกเขายังพาเราไปสำรวจแง่มุมความรู้สึก ปมปัญหา และความฝันของคนอีสานที่ไม่ไกลเกินตัวผู้ชมอีกด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่ตัวภาพยนตร์พยายามนำเสนอและเราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือเรื่องราวของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านอยู่เพียงลำพัง และเฝ้ารอเหล่าลูกๆ หลานๆ ที่ออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมเยือน ซึ่งภาพยนตร์สามารถถ่ายทอดความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาของพวกเขาเหล่านั้นออกมาได้อย่างกินใจ
แม้ว่า ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด จะมีจุดด้อยที่ทำให้เรารู้สึกติดใจอยู่บ้างตรงที่ตัวภาพยนตร์ไม่ได้นำปมปัญหาหลักของเคนและเฟิร์นที่ต้องจับคู่เป็นแฟนปลอมๆ มานำเสนอให้เราได้ชมอย่างเต็มที่เท่าไรนัก รวมถึงฉากจบของเรื่องที่ดูจะรวบรัดตัดตอนไปบ้าง
แต่ในภาพรวมแล้ว ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด คือภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบรรยากาศและวิถีชีวิตของอีสานออกมาได้อย่างอบอุ่น และเราเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ทุกคนที่ออกเดินทางไกลมาตามหาความมั่นคงในกรุงเทพฯ จะต้องหวนคิดถึงบ้านเกิดของตัวเองอย่างแน่นอน
ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=4hIYihCXT1Q&ab_channel=MajorGroup