วานนี้ (22 ธันวาคม) เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธ จรวดหลายลำกล้องชนิด BM-21 ระดมยิงเข้ามาในพื้นที่ บ้านหนองเสม็ด อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
พื้นที่ตกกระสุนดังกล่าวเป็นเขตชุมชนและที่พักอาศัยของประชาชนชาวไทย ไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายทางทหาร การกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้กำลังแบบไม่เลือกเป้าหมาย (Indiscriminate attacks) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความขาดความรับผิดชอบ และการไม่คำนึงถึงชีวิตความปลอดภัย รวมถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้บริสุทธิ์
เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทันทีจำนวน 8 ราย แบ่งเป็นประชาชน 7 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 1 ราย โดยมีผู้บาดเจ็บที่มีอาการสาหัสและรุนแรง ดังนี้:
- ชาย อายุ 71 ปี: อาการสาหัส มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณแผ่นหลังจากการถูกสะเก็ดระเบิด (นำส่ง รพ.สระแก้ว)
- หญิง อายุ 55 ปี: อาการสาหัส มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ลึกถึงกระดูกที่ข้อเท้าขวาจนกระดูกหักและโผล่ออกมา รวมถึงมีแผลฉีกขาดที่ขาซ้าย
- หญิง อายุ 73 ปี: บาดเจ็บจากแรงระเบิดบริเวณไหล่ซ้ายและศีรษะ มีอาการหูอื้อ
- ชาย อายุ 43 ปี: มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทจนไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ได้ (รักษาตัวที่ รพ.โคกสูง)
นอกจากนี้ แรงระเบิดและอานุภาพทำลายล้างของจรวด BM-21 ยังส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่พังเสียหายหลายหลังคาเรือน จนไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก
พล.ต.วินธัย กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า กองทัพบกไม่สามารถยอมรับการกระทำดังกล่าวได้ในทุกกรณี เนื่องจากเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนโดยตรง พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชา ยุติการใช้กำลังต่อพื้นที่พลเรือนทันที
“กองทัพบกขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทางกองทัพบกขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการที่เหมาะสมและจำเป็น เพื่อปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติต่อไป”
อ้างอิง : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก


