วันนี้ (7 มิถุนายน) จากกรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ ล่าสุด พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบเป็นขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ เน้นจากเบาไปหาหนักตามความเหมาะสม
โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้:
ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย
ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด-ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน-เวลาการเข้า-ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน
ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำหรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม
ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤตหรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด
โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้กองกำลังบูรพาและ กองกำลังสุรนารีเป็นผู้พิจารณากำหนดรายละเอียด หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนและความปลอดภัยของประชาชน
สำหรับประชาชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความมั่นคง เช่น นักศึกษาที่เดินทางไปเรียน ผู้ป่วย อยู่ในข้อยกเว้นตามประกาศนี้ ซึ่งทางกองกำลังป้องกันชายแดนจะร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ พิจารณาให้สามารถเดินทางผ่านช่องทางได้
กองทัพบกขอให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนมั่นใจว่า การดำเนินการใดๆ จะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนอย่างรอบคอบ และจะปรับมาตรการให้เหมาะสมตามพัฒนาการของสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง:
- ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก