จากการประชุมแก้แผนฟื้นฟูกิจการของ การบินไทย จำนวน 3 ฉบับ เพื่อเสนอต่อเจ้าหนี้ให้พิจารณาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหนี้มีมติให้เลื่อนการประชุมเพื่อลงมติออกไปเป็นวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้แทน เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจมีผลกระทบสิทธิ์ของเจ้าหนี้ ทำให้อาจเสียเปรียบกระทรวงการคลัง
ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย(THAI) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เรื่องมติที่ประชุมเจ้าหนี้เกี่ยวกับการพิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยบริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทที่จัดโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันในสัดส่วน 55.92% ของจำนวนหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน มีมติให้เลื่อนการประชุมพิจารณาข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ตามคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ออกไปเป็นวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- คลังยื่นแก้แผนฟื้นฟูฯ ‘การบินไทย’ ขอเพิ่มโควตาผู้บริหารแผน 2 คน จับตาเจ้าหนี้โหวต 8 พ.ย. นี้
- การบินไทยไม่กลับสู่ ‘รัฐวิสาหกิจ’ คือทางออกจากวิกฤต พร้อมคืนชีพ ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ นำหุ้นกลับเข้าเทรดในปี 68
- ‘ปิยสวัสดิ์’ เปิดข้อดีหลัง ‘การบินไทย’ พ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ สภาพคล่องดีขึ้น ปีที่แล้วทำกำไรสุทธิสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- พิจารณาขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ เพื่อกำหนดให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ มีอำนาจลดทุนจดทะเบียนด้วยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อล้างผลขาดทุนสะสม
- พิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ เพื่อเพิ่มข้อกำหนดให้ชัดเจนว่าเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ จะได้รับชำระหนี้ก่อนกำหนดเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าจำนวนเงินปันผลที่จะเสนอจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนั้นๆ
- พิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ โดยกระทรวงการคลังเสนอให้พิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มอีกจำนวน 2 ราย ได้แก่ ปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และ พลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง
เจ้าหนี้การบินไทยกังวลคลังชงคนเพิ่มเป็นผู้บริหาร หวั่นกระทบสิทธิ์เจ้าหนี้
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหนี้ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในการประชุมเจ้าหนี้ของการบินไทยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีกลุ่มเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์จำนวนหลายรายที่รวมเสียงข้างมากเสนอให้เลื่อนการประชุมเจ้าหนี้ออกไปก่อน เนื่องจากในแต่ละสหกรณ์มีหลักเกณฑ์ของตัวเองในการพิจารณาเรื่องสำคัญ และได้มติอนุมัติจากสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์มาก่อน ซึ่งแต่ละสหกรณ์ออมทรัพย์มีสมาชิกผู้ออมเป็นจำนวนมาก และหลายรายเป็นผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ออมหรือผู้ลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทยที่ไม่ทราบว่ามีการประชุมดังกล่าว
อีกทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์บางแห่งยังได้รับมอบอำนาจจากสมาชิกให้ออกเสียงโหวตได้บางวาระเท่านั้น จึงไม่มีอำนาจออกเสียงโหวตแทนสมาชิกได้ครบทุกวาระ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเจ้าหนี้ของการบินไทยอีกหลายรายที่ไม่ได้มาร่วมประชุม เพราะยังไม่ทราบว่ามีการประชุมของเจ้าหนี้เพื่อให้พิจารณาอนุมัติการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่มีผลกระทบต่อเจ้าหนี้
โดยเฉพาะประเด็นที่กระทรวงการคลังเสนอขอแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งแจ้งเรื่องมายัง บมจ.การบินไทย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิด ส่งผลให้สื่อสารกับเจ้าหนี้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังมีความกังวลว่าหากทั้ง 2 รายชื่อดังกล่าวได้รับเสียงโหวตข้างมากจากเจ้าหนี้ในที่ประชุมดังกล่าว จะส่งผลให้กระทรวงการคลังมีเสียงข้างมากในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มเป็นจำนวน 3 รายจากทั้งหมด 5 ราย จากปัจจุบันที่มี 1 รายจากทั้งหมด 3 ราย ซึ่งจะมีผลให้กระทรวงการคลังมีอำนาจควบคุมในการบริหารจัดการแผนฟื้นฟูฯ ของการบินไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาจมีผลกระทบสิทธิ์ของเจ้าหนี้ให้เสียเปรียบในอนาคตหรือไม่
ดังนั้นเจ้าหนี้จึงจำเป็นต้องมีสิทธิ์ใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นในการพิจารณาข้อมูลที่มีความสำคัญดังกล่าว เพื่อให้มีการสื่อสารไปยังเจ้าหนี้ที่ยังไม่ทราบข้อมูลให้ได้รับทราบก่อน เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ที่เลื่อนออกไป รวมถึงเพื่อให้การโหวตลงมติของเจ้าหนี้เป็นไปอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม