วานนี้ (6 พฤษภาคม) ความคืบหน้ากรณีหน่วยควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย มีลักษณะคล้ายเครื่องบินโจมตีแบบ K-8 บินเข้าใกล้เขตแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีนั้น
สื่อหลายสำนักรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทหารเมียนมาได้นำเครื่องบินรุ่น K-8 บินมาทิ้งระเบิดที่บ้านทิกิ อำเภอเมตตา จังหวัดเมืองทวาย ภาคตะนาวศรี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามช่องทางบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อป้องกันการรุกล้ำน่านฟ้า
จากนั้นเวลา 12.45 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 จำนวน 2 ลำ จากกองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ ขึ้นบินเพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย พร้อมทั้งแสดงท่าทีเชิงป้องปราม และหลังจากนั้นได้ปฏิบัติการบินลาดตระเวนรบทางอากาศในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยผลการปฏิบัติไม่พบการล้ำอธิปไตย หรือท่าทีคุกคามจากอากาศยานดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมาแหล่งข่าวจากกองทัพไทยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า กรณีที่มีการแชร์ภาพอากาศยานบินอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็น UAV (อากาศยานไร้คนขับ) ของกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นรุ่น VTOL SUD-60
UAV ลำนี้ใช้เพื่อปฏิบัติภารกิจถ่ายภาพทางอากาศ สำหรับจัดทำแผนที่ ตรวจสอบภูมิประเทศแบบ 2D/3D และสำรวจพื้นที่ห่างไกลโดยไม่ต้องใช้รันเวย์ ทั้งนี้ยืนยันได้ว่า ทางกรมแผนที่ทหารมีภารกิจบินในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีแผนการบินตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00-18.00 น.
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ทั้งสองเหตุการณ์ไม่ใช่กรณีเดียวกัน โดยกองทัพอากาศได้ขึ้นบินสกัดเครื่องบิน K-8 ของเมียนมาที่บินเฉียดชายแดนไทยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีจริง ขณะที่อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของกรมแผนที่ทหารก็มีภารกิจบินจริงเช่นกัน แต่เกิดขึ้นในอีกอำเภอหนึ่ง จึงยืนยันได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งคู่ แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน