วันนี้ (3 ธันวาคม) วัชรพล บุษมงคล หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานในสภา หลังจากที่รับ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เข้าสังกัดพรรคไทยก้าวหน้า ทำให้พรรคไทยก้าวหน้ามีที่นั่งในสภา ว่า ในช่วงแรกพรรคไทยก้าวหน้ายังไม่ประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
และมองสถานะของพรรคว่าควรเป็นกลาง ส่วนกรณีที่ได้ไชยามพวานทำหน้าที่ สส. ในสภา จากที่ได้คุยกันเบื้องต้นพบการทำงานที่สอดคล้องกันและยึดประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น พรรคไทยก้าวหน้าในสภาขณะนี้ถือเป็นพรรคเล็ก มี สส. 1 คน ดังนั้น มองว่าจะอยู่ในฝ่ายของการทำงานที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์
ประกาศขอยืนอยู่ตรงกลาง
“เราอยู่ในฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล และพร้อมเสนอแนะความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชนในพื้นที่ สาขาอาชีพต่างๆ ความไม่เป็นธรรม การทุจริต การประพฤติมิชอบ เพราะการสะท้อนปัญหาสู่สภาจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และขอเป็นพรรคที่เป็นกลาง” วัชรพลกล่าว
ชี้ ‘ไชยามพวาน’ เป็น สส. รุ่นใหม่
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคให้อิสระและเอกสิทธิ์การทำงานกับไชยามพวานเต็มที่ใช่หรือไม่ วัชรพลกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง แต่ต้องอยู่ในกรอบระเบียบข้อบังคับของพรรค และจากการพูดคุยมองว่าทัศนคติการทำงานสอดคล้องกันอยู่ แต่อาจต้องปรับเข้าหากันอยู่บ้าง และไชยามพวานถือเป็น สส. รุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือชาวบ้าน
เมื่อถามว่าตำแหน่งผู้ช่วยหรือผู้ปฏิบัติงาน สส. จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ วัชรพลกล่าวว่า ส่วนหนึ่งใช้ชุดเดิม แต่ของพรรคไทยก้าวหน้าจะคอยสนับสนุนเป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษา เพราะพรรคมีบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงาน ดังนั้น จะคอยสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เกิดการทำงานเชิงรุกและสร้างสรรค์ในสภา เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
วอน ‘นักร้องเรียน’ ให้โอกาสทำงาน
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มีข้อเรียกร้อง และมีผู้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบจริยธรรมไชยามพวานต่อองค์กรอิสระในประเด็นคุกคามทางเพศ วัชรพลกล่าวว่า เป็นสิทธิของนักร้อง เพราะเขามักร้องทุกเรื่อง แต่ตนอยากให้มองว่าควรให้โอกาสเขาทำงาน กรณีที่พรรคก้าวไกลขับเขาออกเพราะรักษาภาพลักษณ์พรรคหลังถูกกระแสโหมหนัก
“ผมมองว่าปูอัดคือคนรุ่นใหม่ คิดเร็วและตั้งใจทำงาน หากไปเป็นผู้แทน ประชาชนจะได้รับประโยชน์มากกว่า ทำงานดีกว่าหลายๆ คนด้วยซ้ำ เพราะลงพื้นที่เกือบทุกวัน คนที่คิดจะร้องเรียนเขาควรให้โอกาสในการทำงาน แต่หากมีพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำอีกผมไม่ขัดข้องที่จะยื่นร้องให้ตรวจสอบ” วัชรพลกล่าว