×

ไปไม่รอด! บอร์ด TGH แจ้งเลิกธุรกิจ ‘อาคเนย์ประกันภัย’ หลังยอดเคลมสินไหมพุ่งจากพิษโควิด แม้ผู้ถือหุ้นอัดเงินพยุงแล้วเกือบ 1 หมื่นล้านบาท

26.01.2022
  • LOADING...
อาคเนย์ประกันภัย

บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ กลุ่มบริษัทประกันของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 มีมติให้ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 97.33% เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยสมัครใจ และส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่อนายทะเบียนตามมาตรา 57 และ 57/1 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 

 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ‘ไม่เห็นด้วย’ ที่จะให้โอนกิจการของอาคเนย์ประกันภัยให้แก่ บมจ.อินทรประกันภัย เนื่องจากมีความเห็นว่า เมื่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ​พิจารณาให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้เข้ามาดำเนินการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัย ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กองทุนประกันวินาศภัยมีอยู่แล้ว ก็ควรให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในเรื่องการดำเนินการคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกราย ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อผู้เอาประกันภัยนั้นๆ ซึ่งรวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อโควิด

 

รวมทั้งการจัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามหลักเกณฑ์และแนวทางของกองทุนประกันวินาศภัยด้วย โดยอาคเนย์ประกันภัยเป็นผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินการด้านต่างๆ แก่กองทุนประกันวินาศภัยดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เอาประกันภัย และเพื่อเป็นการดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและบุคคลที่เกี่ยวข้องในทุกๆ ฝ่าย 

          

ดังนั้นบริษัทจะมอบหมายให้ผู้รับมอบฉันทะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของอาคเนย์ประกันภัย เพื่อลงมติเห็นชอบให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้เข้ามาดำเนินการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของอาคเนย์ประกันภัย ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กองทุนประกันวินาศภัยมีอยู่

 

โดยการพิจารณาให้อาคเนย์ประกันภัย ในฐานะบริษัทย่อยของบริษัท เลิกประกอบกิจการ เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริษัทที่จะพิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการไปได้ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท 

         

อย่างไรก็ตาม การเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและการจัดการเกี่ยวกับภาระและกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของอาคเนย์ประกันภัย จะต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของอาคเนย์ประกันภัย ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมในวันที่ 26 มกราคม 2565 โดยหากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการ TGH สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิดที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในภาพรวม ซึ่งก่อนหน้านี้ TGH ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทในช่วงปลายปี 2564 ดังนี้

 

  1. การจำหน่ายหุ้นของ บมจ.ไทยประกันภัย ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ซึ่งได้แก่ กลุ่ม TCC
  2. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ไทยประกันภัย ซึ่งนำไปชำระเป็นค่าสินไหมทดแทนจากการเคลมประกันโควิดของลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของทั้งไทยประกันภัยและ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย เป็นเงินจำนวน 9,900 ล้านบาท

 

เงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัทได้นำมาชำระเป็นค่าสินไหมทดแทนจากการเคลมประกันโควิด ในส่วนของอาคเนย์ประกันภัยเป็นจำนวนประมาณ 8,060 ล้านบาท ซึ่งช่วยให้อาคเนย์ประกันภัยยังสามารถคงสถานะมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน และสามารถประกอบกิจการต่อเนื่องมาได้ในช่วงที่ผ่านมา โดย ณ วันที่ 1 มกราคม 2565 อาคเนย์ประกันภัยมีสินทรัพย์สุทธิคงเหลือกว่า 1,800 ล้านบาท และยังสามารถดำรงอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio) อยู่ที่ประมาณ​ 170%

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการกลายพันธุ์และการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งยังคงเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินและการดำรงอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนของอาคเนย์ประกันภัยให้ลดต่ำลงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดในระยะเวลาอันใกล้นี้ อาคเนย์ประกันภัยจึงได้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นให้พิจารณามีมติดำเนินการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อนายทะเบียนตามกฎหมาย และโอนกิจการของอาคเนย์ประกันภัยให้แก่ บมจ.อินทรประกันภัย

 

คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาร่วมกับตัวแทนฝ่ายจัดการของอาคเนย์ประกันภัยอย่างรอบด้าน โดยมีความมุ่งหมายที่จะดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายไม่ให้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ดังเช่นกรณีที่บริษัทประกันวินาศภัยอื่นที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจะไม่ได้จำกัดเฉพาะเพียงผู้เอาประกันตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้เอากรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นๆ ประกอบกับหากในกรณีที่อาคเนย์ประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต ก็จะทำให้กองทุนประกันวินาศภัยมีภาระทางการเงิน อันเนื่องจากต้องเข้ามาช่วยเหลือแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง อันจะเป็นภาระแก่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโดยรวมอีกด้วย 

 

ประกอบกับเมื่อพิจารณาสถานะทางการเงินของอาคเนย์ประกันภัยในขณะนี้ ซึ่งยังมีสินทรัพย์สุทธิกว่า 1,800 ล้านบาท และเงินกองทุนประมาณ 170% อาคเนย์ประกันภัยย่อมสามารถจ่ายเงินคืนผู้เอาประกันภัยได้ครบถ้วนทุกราย และยังมีเงินเหลือพอที่จะชำระหนี้ให้คู่ค้าทั้งหมด รวมถึงพนักงานลูกจ้างทุกคน ซึ่งความสามารถในการชำระหนี้ของอาคเนย์ประกันภัยจะลดลงหากการตัดสินใจดำเนินการในเรื่องนี้ล่าช้าออกไป

 

ดังนั้นการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยสมัครใจ ในขณะที่อาคเนย์ประกันภัยยังคงมีสถานะทางการเงินที่เพียงพอ และยังดำรงเงินกองทุนได้ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยขอให้ คปภ. พิจารณาให้กองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการให้เรื่องการดำเนินการคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกันภัยทุกราย ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่อาคเนย์ประกันภัยยังมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อผู้เอาประกันภัยนั้นๆ 

 

รวมทั้งการจัดหาผู้รับประกันภัยรายใหม่ให้แก่ผู้เอาประกันภัย ตามหลักเกณฑ์และแนวทางของกองทุนประกันวินาศภัย โดยอาคเนย์ประกันภัยเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ในการดำเนินการของกองทุนประกันวินาศภัยดังกล่าว จึงเป็นมาตรการที่จำเป็นและทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และจะสามารถเยียวยาผู้เอาประกันภัยและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างเป็นธรรมสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงไม่ก่อภาระเพิ่มเติมแก่กองทุนประกันวินาศภัยแต่อย่างใด 

 

ในขณะที่การดำเนินการในทางเลือกอื่นๆ เช่น การเพิ่มทุนหรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในกิจการของอาคเนย์ประกันภัย อาจจะไม่สามารถทำได้ รวมถึงผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทเองก็ได้ให้การสนับสนุนด้านการเงินไปแล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพยุงธุรกิจประกันวินาศภัยของกลุ่มบริษัท 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X