เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ได้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์โลก เมื่อ Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ได้มีมูลค่าหุ้นทะยานผ่านหลัก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก โดยปิดตลาดที่ 1,025.05 ดอลลาร์สหรัฐ (+8.97%)
ส่งผลให้ Market Cap หรือมูลค่ารวมของบริษัทตามราคาตลาดหลักทรัพย์พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 190,121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.87 ล้านล้านบาท กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกไปโดยปริยาย แซงหน้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Toyota เป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้จากการเปิดเผยของ CNET ยังพบอีกด้วยว่า Tesla มีมูลค่าบริษัทเหนือค่ายรถยนต์ในประเทศที่บุกเบิกอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทั้ง General Motors, Ford และ Fiat Chrysler Automobiles รวมกันเสียอีก (ทั้ง 3 บริษัทมีมูลค่ารวมกันที่ 88,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หนึ่งในสาเหตุสำคัญประการต้นๆ ที่ทำให้หุ้นของ Tesla ทะยานขึ้นสูงเช่นนี้มาจากการที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท ได้ประกาศกับพนักงานว่า Tesla เตรียมจะเริ่มเดินสายพานการผลิตรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า Tesla Semi อย่างเป็นรูปธรรมและเต็มอัตราเพื่อให้พร้อมสอดรับกับความต้องการของตลาด และยังจะผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบส่งกำลังรถยนต์ในโรงงาน Tesla Gigafactory ที่เนวาดา
โดยประกาศฉบับดังกล่าวได้หลุดออกมาบนโลกออนไลน์ในเวลาต่อมา ซึ่งมัสก์ก็ยอมรับแต่โดยดีว่าข้อมูลที่เขาสื่อสารกับพนักงาน (การผลิต Tesla Semi) เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้ Tesla ได้เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 และตั้งเป้าจะส่งมอบตัวรถให้กับผู้ที่สนใจในปี 2019 ก่อนที่กำหนดการดังกล่าวทั้งการผลิตและการส่งมอบรถจะต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 ในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2020/06/10/tesla-to-start-volume-production-of-semi-trucks-according-to-memo.html
- https://www.theverge.com/2020/6/10/21286562/tesla-stock-most-valuable-automaker-slot-as-more-workers-contract-covid-19
- https://www.cnet.com/roadshow/news/tesla-most-valuable-automaker-share-stock-price/?ftag=COS-05-10aaa0b&ServiceType=twitter&UniqueID=813D2CC4-AB36-11EA-8690-7A153A982C1E&PostType=link&TheTime=2020-06-10T16%3A21%3A57