Tesla ทำผลกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง แม้ว่าจะเจออุปสรรคต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขาดแคลนชิปและส่วนประกอบอื่น ปัญหาความติดขัดในการขนส่งทางเรือ และปัญหาไฟฟ้าดับในประเทศจีน เนื่องจากมีการใช้พลังงานในพื้นที่มากเกินไป
Tesla มีกำไรจากการดำเนินงาน 2.1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากที่รายงานครั้งก่อนในไตรมาสที่ 2 โดยมีรายรับต่อหุ้นที่ 17% ซึ่งดีกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่สำรวจโดย Refinitiv นับเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกันที่ Tesla ประกาศรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนั้นรายได้ของบริษัทยังเพิ่มขึ้น 15% เป็น 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 4.6 แสนล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้
โดยเมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ Tesla ทำกำไรจากการดำเนินงานถึง 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.3 หมื่นล้านบาท) และในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาส 3 นี้ Tesla ทำได้ถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากตัวเลขไตรมาสที่ 2 และเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
“อุปสรรคที่หลากหลาย ทั้งการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ความติดขัดที่ท่าเรือ และปัญหาไฟดับในจีน ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตของโรงงานของเราให้ไม่สามารถผลิตได้อย่างเต็มกำลัง” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ “เรากำลังพยายามดำเนินการผลิตให้เต็มกำลังมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าการเติบโตของบริษัทจะเป็นเป้าหมายของเรา แต่การเติบโตต่างๆ ก็มักจะถูกกำหนดโดยปัจจัยภายนอกเป็นส่วนใหญ่” และจากการจัดประชุมรายปีของบริษัท อีลอน มัสก์ ประธานกรรมการบริหารของ Tesla กล่าวว่า ในขณะนี้เรากำลังจัดการกับปัญหาซัพพลายเชนของเราที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น
ด้วยต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง Tesla สามารถขึ้นราคารถยนต์ได้ และแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากรถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่ง จากผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม เช่น Volkswagen, General Motors และ Ford แต่ Tesla ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 73% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนั้น Tesla กำลังขยายกิจการในไปใน 3 ทวีป อย่างโรงงานใหม่ที่ใกล้เสร็จแล้วในออสติน รัฐเท็กซัส และในเบอร์ลิน โดยในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อต้นเดือนนี้ มัสก์กล่าวว่า จะย้ายสำนักงานใหญ่ Tesla ไปอยู่ที่ออสติน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะย้ายไปเมื่อไร
Tesla มีการส่งมอบรถยนต์ 241,300 คันทั่วโลกในไตรมาสที่ 3 นี้ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท โดยปัจจุบัน Tesla ผลิตรุ่น Model S, X, 3 และ Y ที่โรงงานในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และ Model 3 และ Y ที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งกว่า 96% ของยอดขายในไตรมาสนี้มาจากรุ่น Model 3 และ Y ส่วนทางด้านโรงงานที่ใกล้จะสร้างเสร็จในออสติน จะใช้เป็นที่ผลิตรุ่น Model Y และ Cybertruck ที่กำหนดวางขายในปลายปีหน้า
นอกจากนั้นรายได้จาก Regulatory Credits หรือข้อกำหนดของทางสหรัฐฯ ที่กำหนดให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาตามสัดส่วนที่กำหนด และหากไม่สามารถทำตามที่กำหนดได้ ก็จะโดนปรับเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต้องมาขอซื้อเครดิตจากทาง Tesla โดยรายได้ตรงนี้อยู่ที่ 279 ล้านดอลลาร์ หรือ 9.3 พันล้านบาท ซึ่งลดลงจาก 354 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 หมื่นล้านบาท) เมื่อสามเดือนก่อน
นอกจากนั้นบริษัทยังรายงานการลงบัญชีด้อยมูลค่า (Impairment) ของ Bitcoin เพื่อไม่ให้บัญชีแสดงมูลค่าที่สูงเกินจริง โดยลงเป็นมูลค่า 51 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.7 พันล้านบาท
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2021/10/20/business/tesla-earnings/index.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-10-20/tesla-s-quarterly-revenue-trails-estimates-while-earnings-beat
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP