ยอดขายรถยนต์ใหม่ของ Tesla ในยุโรปปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนพฤษภาคม จากข้อมูลของ European Automobile Manufacturers Association (ACEA) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ลูกค้าในภูมิภาคหันไปเลือกซื้อ ‘รถยนต์ไฟฟ้าจีน’ ที่มีราคาถูกกว่า
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ 25 มิถุนายน ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของ Tesla ในสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร ร่วงลง 27.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือเพียง 13,863 คันในเดือนพฤษภาคม และส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ในยุโรปก็ลดลงจาก 1.8% ในเดือนพฤษภาคม 2024 เหลือเพียง 1.2% เท่านั้น
ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำแนวโน้มขาลงของ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ในภูมิภาคยุโรป ซึ่งได้รับความเสียหายต่อ ‘ชื่อเสียงแบรนด์’ และภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวาทศิลป์ที่รุนแรงและกิจกรรมทางการเมืองของ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท
มัสก์ เคยทุ่มเงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งนำไปสู่การประท้วงที่โชว์รูม Tesla ทั่วทั้งยุโรป แม้ มัสก์ จะได้ออกจากรัฐบาลทรัมป์แล้วท่ามกลางความขัดแย้งกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ผลกระทบยังคงอยู่
Tesla ยังคงต้องต่อสู้กับการ ‘แข่งขันสูง’ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม และผู้เล่นสัญชาติจีน ยกตัวอย่างเช่น BYD ยักษ์ใหญ่จากจีน มียอดจดทะเบียนรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมเกือบเท่ากับ Tesla หลังจากที่เคยแซงหน้า Tesla ได้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน
ผู้ผลิตรถยนต์จีนยังคงรักษาโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในตลาดยุโรปในเดือนพฤษภาคม แม้จะเผชิญกับภาษีที่สหภาพยุโรปเรียกเก็บจากรถยนต์ไฟฟ้าของจีน โดยผู้ผลิตรถยนต์จีนมียอดขายรวม 65,808 คันเมื่อเดือนที่แล้ว และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 5.9%
เฟลิเป มูญอซ นักวิเคราะห์จาก JATO Dynamics ชี้ว่า “โมเมนตัมของพวกเขาเป็นผลมาจากการตัดสินใจผลักดันระบบขับเคลื่อนทางเลือก เช่น รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบ”
แม้ยอดขายจะร่วง แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมในยุโรปกลับขยายตัวอย่างมาก โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และแม้จะมีการปรับโฉม Model Y ซึ่งเคยถูกคาดหวังว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการ ‘พลิกฟื้น’ สถานการณ์ของบริษัท แต่ก็ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ใหม่ใน Norway ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากภาพรวมของยุโรป ทำให้นักลงทุนต่างผิดหวังกับผลประกอบการล่าสุด จนหุ้นลดลง 18% ตั้งแต่ต้นปี
แม้มัสก์เคยให้คำมั่นว่าจะมีการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว และนักลงทุนยังคงหวังว่ารถยนต์ Tesla ราคาประหยัดกว่าที่จะออกสู่ตลาดปลายปีนี้ จะช่วยพลิกฟื้นยอดขายที่ลดลงได้
SAIC Motor ของจีน กลายเป็นผู้ชนะรายใหญ่ในเดือนพฤษภาคม โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในยุโรปพุ่งขึ้น 38% ทำให้บริษัทสามารถแซงหน้า Tesla ที่เคยขายรถได้มากกว่าในภูมิภาคนี้เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากปัญหาในตลาดยุโรป Tesla ยังคงเดินหน้าเปิดตัวบริการ ‘Robotaxis’ ไร้คนขับใน Austin รัฐ Texas ซึ่ง มัสก์ คาดหวังว่าจะขยายบริการไปยังเมืองอื่นๆ อย่างรวดเร็ว และมีรถแท็กซี่อัตโนมัติถึงหนึ่งล้านคันภายในสิ้นปีนี้
แม้ว่าผลตอบรับเบื้องต้นจะดีเป็นส่วนใหญ่ แต่บริการยังคงจำกัดอยู่ในรถยนต์ไม่กี่สิบคัน และผู้โดยสารบางรายก็เผยแพร่วิดีโอแสดงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง เช่น รถ Robotaxi ขับเข้าไปในเลนสวนทาง เป็นต้น
ภาพ: Budrul Chukrut / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: