×

บอร์ด Tesla เสนอจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลให้ ‘อีลอน มัสก์’ 1 ล้านล้านดอลลาร์ แลกกับทำเป้าหมายสุดโหดให้ได้ใน 10 ปี

06.09.2025
  • LOADING...
อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tesla ขณะเข้าร่วมประชุมบอร์ด

เมื่อไม่นานมานี้ บอร์ดบริหารของ Tesla เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ให้กับ อีลอน มัสก์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท หากสามารถทำตามเงื่อนไขที่ทั้งด้านการเพิ่มมูลค่าตลาด กำไร และต้องเปิดตัวธุรกิจใหม่ให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า

 

โดย อีลอน มัสก์ จะไม่ได้รับเงินเดือนหรือโบนัสเหมือนพนักงานทั่วไป แต่จะได้สิทธิรับหุ้นจำนวน 423 ล้านหุ้น ซึ่งจะทยอยปลดล็อกให้ก็ต่อเมื่อ Tesla บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

 

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญๆ คือการผลักดันให้มูลค่าตลาดของ Tesla ให้พุ่งสูงขึ้น จากปัจจุบันมูลค่าอยู่ราว 1.09 ล้านล้านดอลลาร์ ไปแตะ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือสูงกว่า Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกให้ได้

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายย่อยที่ต้องทำควบคู่กัน เริ่มตั้งแต่ การผลักดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 12 ล้านคัน ตามด้วยเพิ่มผู้ใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ (Full Self-Driving) แตะ 10 ล้านบัญชี รวมถึงเพิ่มจำนวนบริการรถยนต์ไร้คนขับ 1 ล้านคัน และขายหุ่นยนต์ AI ให้ได้จำนวน 1 ล้านตัว

 

พร้อมกับทำกำไรเพิ่มขึ้น 24 เท่า สู่ระดับ 4 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบัน Tesla ยังอยู่ห่างไกลจากตัวเลขเหล่านี้มาก โดยปีที่แล้วบริษัทมีกำไรเพียง 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ มียอดขายรถสะสมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 8 ล้านคัน และยังไม่เคยเปิดตัว Robotaxi หรือหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์เลย

 

เมื่อมาดูโครงสร้างการปลดล็อกค่าตอบแทน ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 12 ระดับ หากทำได้สำเร็จและรักษาระดับความสำเร็จไว้ได้ต่อเนื่อง 6 เดือน อีลอน มัสก์ จะได้รับหุ้นของ Tesla ประมาณ 35 ล้านหุ้น แต่หุ้นดังกล่าวไม่สามารถขายได้ทันที อีลอน มัสก์ ต้องถือครองอย่างน้อย 7 ปีครึ่ง และหากจะขายจำนวนมากต้องได้รับอนุมัติจากบอร์ดเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด

 

ด้าน โรบิน เดนโฮล์ม ประธานบอร์ดของ Tesla ระบุว่า แพ็กเกจนี้ถูกออกแบบเพื่อเชื่อมโยงมูลค่าที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับในระยะยาวควบคู่กับการสร้างแรงจูงใจของผู้นำที่มองการณ์ไกล โดยหาก Tesla ไม่สามารถเติบโตตามเป้าหมาย อีลอน มัสก์ ก็จะไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ เลย

 

แต่ถ้าหากแผนสำเร็จทั้งหมด อีลอน มัสก์อาจเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นรวมเป็น 32% อย่างไรก็ตาม หลังหักภาษีและ dilution แล้ว สิทธิออกเสียงจริงจะอยู่ที่ราว 25%

ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ เคยย้ำหลายครั้งว่า การมีสิทธิออกเสียงอย่างน้อย 20% เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ Tesla ตกเป็นเป้าของนักลงทุนเชิงเคลื่อนไหวหรือการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งเขามองว่าเป็นความเสี่ยงต่อทิศทางการพัฒนา AI และหุ่นยนต์ในอนาคตของบริษัท

 

เรียกได้ว่าการเดินหน้าแผนนี้ต้องฝ่าความท้าทายหลายด้าน ทั้งราคาหุ้น Tesla ที่ร่วงลงกว่า 30% นับตั้งแต่เดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา ประกอบกับยอดขายที่ชะลอตัวจากกระแสต่อต้านทางการเมือง แถมยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกเลิกหลายมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด

 

สำหรับ ดีลนี้มีโครงสร้างใกล้เคียงกับแพ็กเกจค่าตอบแทนปี 2018 ซึ่งเคยถูกมองว่าแทบเป็นไปไม่ได้ ที่อีลอน มัสก์ จะทำได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ทำสำเร็จ จนทำให้ส่งมูลค่า Tesla พุ่งจาก 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ทะลุไปเกิน 6.5 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้เขาได้หุ้นมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นค่าตอบแทนที่สูงสุดในประวัติศาสตร์

 

แต่ท้ายที่สุดศาล Delaware Court of Chancery ได้ตัดสินให้แพ็กเกจค่าตอบแทนปี 2018 เป็นโมฆะโดยให้เหตุผลว่า ดีลมีขนาดใหญ่เกินควรและบอร์ดใกล้ชิดกับมัสก์มากเกินไป ซึ่งปัจจุบัน Tesla ได้ยื่นอุทธรณ์และย้ายที่จดทะเบียนไปยังรัฐเท็กซัส

 

และเมื่อเดือนที่ผ่านมา Tesla ได้โอนหุ้นชั่วคราวมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้อีลอน มัสก์ เพื่อแสดงความสุจริตใจ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเขาขยับจาก 13% เป็น 16% และหากศาลกลับคำตัดสินสัดส่วนการถือหุ้นของอีลอน มัสก์จะพุ่งเป็น 20% ทันที

 

อย่างไรก็ตาม บอร์ด Tesla เตรียมนำเสนอแผนค่าตอบแทนใหม่นี้เข้าสู่การพิจารณาของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส หากได้เสียงสนับสนุนเกิน 50% บริษัทจะออกหุ้นใหม่เพิ่ม 423 ล้านหุ้นจากที่มีอยู่แล้วกว่า 3.2 พันล้านหุ้น โดยภายใต้กฎหมายเท็กซัส อีลอน มัสก์ และคิมบอล มัสก์ ผู้เป็นน้องชายซึ่งเป็นหนึ่งในบอร์ด สามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ ต่างจากในอดีตที่ทั้งคู่ต้องเว้นการโหวตในประเด็นเรื่องค่าตอบแทน

 

ภาพ: Justin Sullivan/Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising