สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Elon Musk ล้มเลิกแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดของ Tesla ที่เรียกกันว่า Model 2 โดยหันไปทุ่มเทกับการพัฒนาแท็กซี่ไร้คนขับแทน ข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าววงในสามคนที่ระบุว่าการตัดสินใจนี้สื่อสารถึงพนักงานในระหว่างการประชุมเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
Musk ให้คำมั่นมาหลายปีแล้วว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้ที่อาจมีราคาประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9 แสนบาท เพื่อขยายฐานรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น Musk กล่าวถึงแนวคิดนี้ครั้งแรกในการให้สัมภาษณ์กับยูทูเบอร์ที่ชื่อว่า Marques Brownlee ในปี 2018 โดย Musk บอกว่า “รถยนต์ราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นอะไรที่เราทำได้”
ต่อมาในปี 2020 ในงาน Tesla Battery Day ครั้งแรก Musk คาดการณ์ว่า Tesla อาจผลิตยานยนต์ประเภทนี้ได้ถึง 20 ล้านคันต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณสองเท่าของปริมาณการผลิตรวมในปัจจุบันของ Toyota, GM หรือ Volkswagen
Musk เคยกล่าวว่ารถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาของ Tesla จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ยุคใหม่ของบริษัทซึ่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ในการประชุมรายได้เมื่อต้นปีนี้ Musk กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าหมายการผลิต ‘ช่วงสิ้นปี 2025’ แต่ก็เตือนถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดความล่าช้าเนื่องจากความซับซ้อนของกระบวนการผลิต
“เรามุ่งมั่นที่จะนำรูปแบบยุคใหม่นี้ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุด โดยมีแผนเริ่มต้นการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในรัฐเท็กซัส” Tesla ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น “รูปแบบนี้จะปฏิวัติวิธีการผลิตยานยนต์”
Tesla ไม่ได้ตอบคำขอสัมภาษณ์จากสำนักข่าว Reuters แต่ Musk ก็ออกมาโพสต์ว่าการรายงานข่าวนั้นเป็นเรื่อง ‘โกหก’
การปรับกลยุทธ์ของ Tesla มีขึ้นในขณะที่บริษัทกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากค่ายรถยนต์จีนที่ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยามาหลายปีแล้ว Musk เคยกล่าวว่าการยอมให้บริษัทรถยนต์จีนขายรถไฟฟ้าราคาถูกในสหรัฐฯ จะเป็นการตัดสินใจแบบฆ่าตัวตายสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอย่างเช่นบริษัทของเขา และปัจจุบันยังไม่มีรถยนต์จีนวางจำหน่ายในสหรัฐฯ เนื่องจากมีอัตราภาษีสูง
“พูดตรงๆ เลย ถ้ายกเลิกกำแพงภาษี บริษัทรถยนต์จีนก็จะมาทำลายบริษัทรถยนต์เกือบทั่วโลกได้เลย” Musk กล่าว “พวกเขาเก่งมาก”
ในระหว่างที่ Tesla ใช้เวลาหลายปีพัฒนารถยนต์บรรทุก Cybertruck ราคาแพง บริษัทรถยนต์ BYD จากจีนก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก โดยในปี 2023 BYD ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวม 3.02 ล้านคัน ขณะที่ Tesla อยู่ที่ 1.81 ล้านคัน
ช่วงต้นปี 2023 Reuters รายงานว่า Tesla วางแผนจะเริ่มต้นการผลิตยานยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในกลางปี 2025 โดยเชิญชวนบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มายื่นข้อเสนอในการร่วมทำงานกับรถรุ่นนี้ และคาดการณ์การผลิตรถยนต์ที่สัปดาห์ละ 10,000 คัน มีการคาดการณ์ว่ารถรุ่นนี้อาจจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่สัญญาไว้สำหรับผู้บริโภค และอาจยืมดีไซน์บางส่วนมาจาก Cybertruck
นอกจากยานยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด Musk ยังสัญญาว่าจะมีแท็กซี่ไร้คนขับของ Tesla ที่จะสร้างการปฏิวัติระบบการเป็นเจ้าของรถ “ภายในกลางปีหน้าจะมี Tesla เกือบหนึ่งล้านคันบนถนนที่มีซอฟต์แวร์ Full Self-Driving (FSD)” Musk กล่าวในปี 2019 พร้อมเสริมว่าเทคโนโลยี Full Self-Driving ของ Tesla จะน่าเชื่อถือจนผู้ขับสามารถ ‘นอนหลับ’ ได้แม้รถวิ่งอยู่ (แต่รถ Tesla ที่มีซอฟต์แวร์ FSD ยังไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ และคนขับก็ไม่ควรจะนอนหลับในรถ)
เมื่อปีก่อน Walter Isaacson ผู้เขียนชีวประวัติของ Musk บอกกับสำนักข่าว Axios ว่าแท็กซี่ไร้คนขับของ Tesla จะมีดีไซน์ตามแนวคิด Cybertruck ในอนาคต และจะพัฒนาขึ้นตามไปพร้อมกับการพัฒนาแท็กซี่ไร้คนขับในรูปแบบอิสระ Tesla เคยเปิดตัวอย่างคร่าวๆ กับยานยนต์ใหม่สองรุ่นในงานสำหรับนักลงทุนเมื่อช่วงเดือนมีนาคม หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นรถที่คันเล็กกว่าและอีกคันเป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก
ในหนังสือของ Isaacson นั้น Musk คาดการณ์ว่าหากรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดกับการมีแท็กซี่ไร้คนขับมาพร้อมกัน ก็อาจทำให้เขาสามารถชะลอการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดเอาไว้ก่อนได้ โดยให้เหตุผลว่าถ้ามียานยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ ก็อาจทำให้ยานยนต์ราคาประหยัดดูไม่จำเป็นอีกต่อไป
อ้างอิง:
