×

ผู้ถือหุ้น Tesla ไฟเขียว! อนุมัติแพ็กเกจค่าจ้าง 32 ล้านล้านบาท ปูทาง ‘อีลอน มัสก์’ สู่เศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลก

07.11.2025
  • LOADING...
ผู้ถือหุ้น Tesla ไฟเขียว อนุมัติแพ็กเกจค่าจ้าง 32 ล้านล้านบาท ปูทาง ‘อีลอน มัสก์’ สู่เศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลก

ผู้ถือหุ้นของ Tesla ได้ลงมติอนุมัติแพ็กเกจค่าตอบแทนครั้งประวัติศาสตร์ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32.36 ล้านล้านบาท) ให้กับซีอีโอ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซึ่งเป็นค่าตอบแทนผู้บริหารที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอาจปูทางให้เขากลายเป็น ‘เศรษฐีล้านล้าน’ (Trillionaire) คนแรกของโลก

 

Tesla ประกาศในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) ว่า มากกว่า 75% ของผู้ถือหุ้นได้ลงมติเห็นชอบกับแผนการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว โดยไม่นับรวมหุ้น 15% ที่มัสก์ถือครองอยู่แล้ว เสียงเชียร์และเสียงตะโกนได้ดังกระหึ่มขึ้นในที่ประชุมทันทีที่ผลการลงคะแนนถูกประกาศออกมา

 

ภายใต้ข้อตกลงนี้ มัสก์จะไม่ได้รับเงินเดือนใดๆ แต่จะได้รับเป็นสิทธิ์ในการซื้อหุ้นของบริษัท (Stock Grant) จำนวนมหาศาลถึง 423.7 ล้านหุ้นภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเขาใน Tesla เพิ่มขึ้นเป็น 25% หรือมากกว่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม การที่จะได้รับหุ้นทั้งหมดตามแพ็กเกจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มัสก์จะต้องบรรลุเป้าหมายที่ ‘ท้าทาย’ อย่างยิ่งยวด โดยเขาจะต้องผลักดันให้มูลค่าตลาดของ Tesla พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 275 ล้านล้านบาท) ให้ได้ ซึ่งสูงกว่ามูลค่าปัจจุบันถึง 466% และสูงกว่ามูลค่าของ Nvidia บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในปัจจุบันเกือบ 70%

 

นอกจากเป้าหมายด้านมูลค่าตลาดแล้ว Tesla ยังต้องบรรลุเป้าหมายด้านการดำเนินงานหรือการเงินอีกหลายชุดควบคู่กันไปด้วย การปลดล็อกค่าตอบแทนก้อนนี้จึงไม่ใช่แค่การรอให้ราคาหุ้นขึ้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังซบเซา และการผลักดันโครงการหุ่นยนต์ Optimus และ Robotaxi ให้เกิดขึ้นจริง

 

การลงมติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของ Tesla หลังจากที่มัสก์ได้ส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะก้าวลงจากตำแหน่ง หรือใช้เวลากับบริษัทอื่นของเขามากขึ้น หากไม่ได้รับความมั่นใจในอำนาจการควบคุมบริษัท ซึ่งแพ็กเกจค่าตอบแทนนี้คือคำตอบที่เขาต้องการ

 

ในระหว่างการประชุม มัสก์ได้ขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงเชียร์และเต้นรำไปพร้อมกับหุ่นยนต์ Optimus 2 ตัว เขากล่าวว่า “นี่ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นบทใหม่ของ Tesla แต่คือการ เริ่มต้นเรื่องราวใหม่ทั้งหมด” โดยหนังสือเล่มใหม่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มกำลังการผลิตยานยนต์และการผลิตหุ่นยนต์ Optimus ให้เร็วกว่าที่เคยมีมา

 

เขายังได้กล่าวถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่หลายอย่าง รวมถึงการที่ Tesla อาจต้องสร้างโรงงานผลิตชิปขนาดมหึมาที่เรียกว่า Terafab ด้วยตนเอง เนื่องจากประเมินแล้วว่ากำลังการผลิตจากซัพพลายเออร์อย่าง Samsung และ TSMC อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต นอกจากนี้ มัสก์ยังได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตรถยนต์ให้ได้อีกประมาณ 50% ภายในสิ้นปีหน้า

 

มัสก์ยังคงเดิมพันอนาคตของบริษัทไว้กับ AI และหุ่นยนต์มากกว่ารถยนต์ โดยเขากล่าวว่าหุ่นยนต์จะเป็น ‘ผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล’ และคาดการณ์ว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกจะต้องการ R2D2 หรือ C3PO เป็นของตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การยุติความยากจนและเปลี่ยนแปลงระเบียบเศรษฐกิจโลก

 

แม้ว่าแพ็กเกจค่าตอบแทนนี้จะได้รับการอนุมัติอย่างท่วมท้น แต่ก็เผชิญกับการต่อต้านจากนักลงทุนสถาบันรายใหญ่หลายแห่ง รวมถึงกองทุนน้ำมันของนอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 9 ของบริษัท โดยให้เหตุผลว่า กังวลเกี่ยวกับขนาดของรางวัล, ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม และการขาดการป้องกันความเสี่ยงกรณีที่บริษัทต้องพึ่งพาบุคคลสำคัญเพียงคนเดียว

 

องค์กรที่ปรึกษาผู้ถือหุ้นอย่าง ISS และ Glass Lewis ก็ได้แนะนำให้ผู้ถือหุ้นลงมติคัดค้านเช่นกัน โดยวิจารณ์ถึง ‘ขนาดที่ใหญ่โตอย่างน่าตกใจ’ ของแพ็กเกจ และการขาดกลไกที่จะรับประกันว่ามัสก์จะให้ความสำคัญกับ Tesla มากกว่าธุรกิจอื่นๆ ของเขา

 

คณะกรรมการของ Tesla ได้พยายามอย่างหนักในการล็อบบี้ผู้ถือหุ้นสถาบัน โดย ร็อบบิน เดนโฮล์ม (Robyn Denholm) ประธานบอร์ด ได้เตือนว่าราคาหุ้นอาจ ‘พังทลาย’ หากปราศจากมัสก์ และแพ็กเกจขนาดนี้คือสิ่งเดียวที่จะกระตุ้นให้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกยอมทุ่มเทความพยายามอย่างเหนือมนุษย์เพื่อบรรลุ “สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้”

 

การอนุมัติครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากที่แพ็กเกจค่าตอบแทนเดิมของมัสก์ (มูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ถูกผู้พิพากษาในเดลาแวร์สั่งยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าบอร์ดบริหารมีความใกล้ชิดกับมัสก์มากเกินไป ซึ่งขณะนี้บริษัทยังคงอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว

 

หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.36 บาท ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568

 

ภาพ : Andrew Harnik/Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising