หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem
Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem คือภาพยนตร์แอนิเมชันฉบับรีบูตใหม่ของแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles (TMNT) ที่ดัดแปลงมาจากคอมิกของสองนักเขียน Kevin Eastman และ Peter Laird โดยได้ Seth Rogen จากซีรีส์เรื่องเยี่ยมอย่าง The Boys (2019) มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์และเขียนบทร่วม พร้อมด้วย Jeff Rowe และ Kyler Spears จาก The Mitchells vs. the Machines (2021) มานั่งแท่นผู้กำกับร่วม
ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของเต่านินจากลายพันธุ์ทั้ง 4 อย่าง Leonardo (Nicolas Cantu), Donatello (Micah Abbey), Raphael (Brady Noon) และ Michelangelo (Shamon Brown Jr.) ที่อาศัยอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ใต้ท่อระบายน้ำกลางกรุงนิวยอร์ก โดยมี Splinter (Jackie Chan) อาจารย์หนูและพ่อเลี้ยงของพวกเขาคอยดูแล
วันหนึ่ง ก็มีข่าวคราวว่ามีวายร้ายปริศนานาม Superfly (Ice Cube) กำลังก่อเหตุวุ่นวายไปทั่วเมือง เต่านินจาทั้ง 4 ที่ต้องการจะก้าวออกจากท่อระบายน้ำและได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นธรรมดาๆ จึงวางแผนที่จะจับกุมตัว Superfly เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็น โดยมี April O’Neil (Ayo Edebiri) นักเรียนไฮสคูลที่อยากเป็นนักข่าวคอยช่วยรวบรวมข้อมูลอีกแรง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ในปี 2023 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่เราได้ชมภาพยนตร์แอนิเมชันคุณภาพหลายเรื่องด้วยกัน ทั้ง Spider-Man: Across the Spider-Verse ที่มาพร้อมกับงานภาพเปี่ยมจินตนาการ หรือ The Super Mario Bros. Movie ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมระดับตำนาน ที่เอาชนะใจแฟนๆ จนกวาดรายได้ทั่วโลกไปอย่างถล่มทลาย รวมถึง Nimona ที่ออกฉายทาง Netflix และ Elemental ผลงานล่าสุดจาก Pixar ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างเนืองแน่น
ตอนนี้ก็มาถึง TMNT: Mutant Mayhem ที่สามารถเอาชนะใจนักวิจารณ์และผู้ชม ด้วยการขึ้นเป็นผลงานที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงที่สุดของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ TMNT บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes
และสำหรับผู้เขียน TMNT: Mutant Mayhem เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชันที่ครบเครื่องทีเดียว โดยเฉพาะงานภาพที่ให้ความรู้สึกว่าเรากำลังนั่งอ่านคอมิกที่เคลื่อนไหวได้ การออกแบบตัวละครที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการออกแบบ Transitions เท่ๆ ที่เสริมให้ภาพรวมของภาพยนตร์มีรูปแบบการนำเสนออันแพรวพราวและชวนให้เราไม่อาจละสายตาไปจากหน้าจอได้จริงๆ
ไม่เพียงแค่นั้น TMNT: Mutant Mayhem ยังมาพร้อมกับประเด็นสำคัญที่ถูกสอดแทรกอยู่ภายใต้ฉากแอ็กชันเท่ๆ ความตลกขบขัน และงานภาพสุดเจ๋ง คือปมปัญหาของเหล่าตัวละครหลักที่ร่วมสมัยและเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ทุกวัย
เริ่มตั้งแต่เต่านินจาทั้ง 4 อย่าง Leo, Donnie, Raph และ Mikey ที่ถูกวางให้เป็นภาพแทนของกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกมองว่าเป็นพวก ‘แปลกแยก’ เพียงเพราะพวกเขาแตกต่างไปจากคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ภายนอกหรือตัวตนภายใน จนหลายครั้งพวกเขาก็ต้องพยายามไขว่คว้าหา ‘โอกาส’ ด้วยกำลังของตัวเองมากกว่าคนอื่นๆ เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น
ขณะที่ April O’Neil ก็ถูกวางให้เป็นภาพสะท้อนของปัญหา Cyberbullying ภายในโรงเรียน ที่ถูกผู้คนหยิบปมด้อยหรือภาพลักษณ์ภายนอกมาโจมตีบนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการสื่อสารต่างๆ ที่ส่งต่อภาพหรือข้อความออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วจนเกินควบคุม และกลายเป็นการสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้กับผู้คนภายนอก
และสิ่งที่ April O’Neil ต้องแบกรับคือบาดแผลมากมายที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แถมยังต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำสกู๊ปข่าวเปิดโปงตัวจริงของ Superfly เพื่อแก้ไขสิ่งที่ทุกคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเธอ ซึ่งที่ร้ายแรงกว่านั้นคือไม่มีใครออกมาขอโทษหรือรับผิดชอบต่อคำพูดที่โพสต์โจมตี April O’Neil เลย
รวมๆ แล้ว TMNT: Mutant Mayhem จึงไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีงานภาพสุดเจ๋ง แต่ยังมาพร้อมกับประเด็นที่ร่วมสมัยและสะท้อนภาพปัญหาของกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงวัยใกล้เคียงกับตัวละครที่เล่ากี่ครั้งก็ยังไม่เก่า
บางที การที่ทีมสร้างเลือกจะออกแบบให้ทุกตัวละครในเรื่อง ทั้งตัวละครสมทบ กลุ่มตัวร้าย ไปจนถึงรถราและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้มีลายเส้นที่บิดเบี้ยว แปลกตา เราก็อาจตีความสารที่ทีมสร้างสอดแทรกไว้ได้ในแง่มุมหนึ่งว่า จงอย่าตัดสินคุณค่าของใครเพียงเพราะภาพลักษณ์ภายนอกของพวกเขาแตกต่างไปจากที่เราคาดหวังให้เป็น เพราะสิ่งที่อยู่ภายในลายเส้นที่แตกต่างเหล่านั้นต่างหากที่บ่งบอกตัวตนของเราจริงๆ
Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่: