หลังจากที่ Taylor Swift ได้ประกาศมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าเธอจะปล่อยอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) ในเดือนพฤศจิกายน เที่ยงวันนี้ (12 พฤศจิกายน) ก็ถึงเวลาที่ Swifties ทั่วโลกจะได้ฟังกันแล้ว ซึ่งเธอจัดเต็มอัด 19 เพลงจากอัลบั้ม Red เวอร์ชันดั้งเดิมเมื่อปี 2012 ใหม่อีกครั้ง พร้อมเพิ่มมาอีก 11 เพลงใหม่ที่ Taylor Swift ได้เขียนเอาไว้ในช่วงที่ทำอัลบั้ม Red เหมือนเดิมที่สะท้อนตัวตนของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังอกหัก ซึ่งแตกสลายไปด้วยหลากหลายความรู้สึก แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุข อิสระ และการอยากลองอะไรใหม่อีกด้วย โดยเพลงใหม่เหล่านี้ก็จัดอยู่ในกลุ่ม ‘From The Vault’
สำหรับอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) ทาง Taylor Swift ยังคงเก็บซาวด์เดิมของ 19 เพลงที่เราคุ้นเคยกันอย่าง We Are Never Ever Getting Back Together, I Knew You Were Trouble, Stay Stay Stay และ State of Grace เพลงเปิดอัลบั้ม โดยทางนักร้องวัย 31 ปีได้ให้ Christopher Rowe มาร่วมโปรดิวซ์กับเธอเป็นหลัก
ด้านเพลงใหม่ของอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) หนึ่งในไฮไลต์ก็ต้องยกให้เพลง Message In A Bottle ที่มาในแนวป๊อปฟังง่ายตามเอกลักษณ์ของ Taylor Swift ที่หลายคนคิดถึง ซึ่งได้ Max Martin และ Shellback สุดยอดทีมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์จากสวีเดนมาทำให้ ส่วนอีกหนึ่งเพลงใหม่ Run Taylor Swift ได้กลับมาร่วมงานกับเพื่อนสนิทของเธอ Ed Sheeran อีกครั้ง (ในอัลบั้มนี้พวกเขาอัดเพลง Everything Has Changed อีกครั้งด้วย) ซึ่งเป็นเพลงบัลลาดป๊อปโฟล์กสุดซึ้ง ที่ได้ Aaron Dessner แห่งวง The National ที่เป็นโปรดิวเซอร์หลักของอัลบั้ม Folklore และ Evermore ของ Taylor Swift มาทำให้ พร้อมยังได้ London Contemporary Orchestra มาเล่นให้อีกด้วย
จะไม่ให้พูดถึงเพลง All Too Well เวอร์ชันใหม่ยาว 10 นาทีในอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) ก็คงไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่า Swifties หลายคนที่ฟังต้องมีอาการเสียน้ำตาและรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นหนังสั้นของเพลงนี้ที่จะปล่อยพรุ่งนี้เช้า (13 พฤศจิกายน) เวลา 07.00 น. โดยจะได้ Sadie Sink จากเรื่อง Stranger Things และ Dylan O’Brien จาก The Maze Runner มาแสดง
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ตอนที่ Taylor Swift ปล่อยอัลบั้ม Red ครั้งแรก ผลงานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนและก้าวสำคัญของเธอในการเป็นศิลปินก็ว่าได้ เพราะเป็นอัลบั้มแรกที่เธอได้ผสมผสานหลากหลายแนวเพลง และเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างแนวคันทรีที่ช่วยแจ้งเกิดเธอและแนวเพลงป๊อปที่หลังจากนั้นเธอก็ได้ทำแบบเต็มสตรีมกับอัลบั้มถัดไปอย่าง 1989 (2014) และยกระดับความนิยมของเธอทั่วโลกมากขึ้นหลายขั้น แต่ความน่าสนใจของอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) คือมีเพลงใหม่ I Bet You Think About Me ที่เธอชวนให้ Chris Stapleton มาร่วมงานเป็นครั้งแรกด้วย ซึ่ง Chris Stapleton ถือเป็นศิลปินคันทรีแถวหน้า ณ เวลานี้ ซึ่งเชื่อว่าหากมีการโปรโมตเพลงนี้ ก็จะช่วยให้ Taylor Swift กลับมาเป็นที่สนใจของฐานแฟนเพลงคันทรีในอเมริกาอีกครั้งไม่มากก็น้อย
คำถามต่อไปที่เชื่อว่าเหล่า Swifties มีอยู่ในใจคือ เธอจะเลือกอัลบั้มไหนเพื่ออัดใหม่และจะปล่อยช่วงไหน ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากที่ Taylor Swift ปล่อยอัลบั้ม Fearless (Taylor’s Version) หลายคนก็นึกว่าเธอจะปล่อยอัลบั้ม 1989 (Taylor’s Version) เพราะมีเพลง Wildest Dream (Taylor’s Version) ออกมาแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอปล่อย Red (Taylor’s Version) ออกมาก่อน แต่เราเชื่อว่า ไม่ว่าจะอัลบั้ม Taylor Swift (Taylor’s Version), Speak Now (Taylor’s Version), 1989 (Taylor’s Version) หรือ Reputation (Taylor’s Version) ก็ต้องประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และเธอก็จะมีกิมมิกพิเศษสำหรับแต่ละผลงานอย่างแน่นอน
*สามารถฟังอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) ได้ที่ YouTube ของเธอและแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ ได้แล้ววันนี้
ภาพ: Taylor Swift