×

ทวีระบุ ทักษิณพักโทษใช้เกณฑ์เฉพาะของกลุ่มอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ต้องการใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว-คนที่รัก

โดย THE STANDARD TEAM
20.02.2024
  • LOADING...

วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติที่กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการพักโทษต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังได้รับการปล่อยตัวว่า ปกติแล้วผู้ได้รับการพักโทษจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติประมาณ 11-12 ข้อ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ใช้กับบุคคลทั่วไป เช่น การให้เข้ารายงานตัวตามระยะเวลาที่ระเบียบกำหนดกับเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติ โดยเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติจะควบคุมให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เนื่องจากถือว่ายังอยู่ในกระบวนการของศาล  

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับการพักโทษบางรายไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข และถูกเพิกถอนการพักโทษเฉลี่ยแล้วกว่ารอบละ 100 คน โดยพฤติการณ์ที่ทำผิดเงื่อนไข เช่น ออกไปคบค้ากับผู้ค้ายาเสพติด ออกไปกระทำผิดซ้ำ หรือไม่มารายงานตัวตามเงื่อนไข ซึ่งทุกเดือนจะมีการรายงานไปยังคณะกรรมการพักโทษว่ามีบุคคลใดที่เข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขการพักโทษบ้าง ยืนยันว่าทางกรมคุมประพฤติจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด ตรงไปตรงมา และรอบคอบ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นที่สนใจของประชาชนและสังคมจะมีความละเอียดอ่อน

 

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า กรณีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หน่วยงานคุมประพฤติในเขตที่รับผิดชอบ จะรายงานเรื่องต่างๆ ไปยังอธิบดีกรมคุมประพฤติ ไม่ต้องรายงานมายังรัฐมนตรี เนื่องจากทั่วประเทศมีผู้ที่ถูกคุมประพฤติกว่า 400,000 คน และไม่ว่าผู้ถูกคุมประพฤติจะถูกดำเนินคดีในข้อหาใดก็จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกันที่ได้กำหนดมาตั้งแต่ปี 2546 ไม่มีใครได้รับสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษ 

 

แต่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป และคนเจ็บป่วยร้ายแรงหรือพิการก็จะมีหลักเกณฑ์โดยเฉพาะ เพราะมองว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้อยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต ต้องการอยู่กับครอบครัวและบุคคลที่รัก มีโอกาสหลบหนีหรือก่อเหตุร้ายในสังคมได้น้อยกว่า  

 

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ระหว่างการพักโทษทักษิณจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศหรือนอกพื้นที่ได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่ดูแล และไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือมีตำแหน่งในบริษัทใดๆ ได้ แต่ยังสามารถมีคนเข้าไปพบปะได้ตามปกติ แต่หากทักษิณครบกำหนดพ้นโทษหลังเดือนสิงหาคมนี้ก็มีสิทธิ์เหมือนกับประชาชนทั่วไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising