ดิม-หรินทร์ สุธรรมจรัส, รัฐ พิฆาตไพรี, จั๊มป์-ธนบดี ธีรพงศ์ภักดี และ ตง-เอกชัย โชติรุ่งโรจน์ 4 สมาชิกวง Tattoo Colour เพิ่งเผยชื่อคอนเสิร์ตใหญ่ ‘กาลครั้ง 4 Happy Birthday’ ให้ทราบกันไปเมื่อวานนี้ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 12-13 พฤศจิกายน วันคล้ายวันเกิดของอัลบั้ม Hong Ser จุดเริ่มต้นในวงการเพลงที่ส่งให้พวกเขากลายเป็นวงโปรดของผู้ฟังมาเสมอ โดยเฉพาะในปีนี้ที่เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากวงเพิ่มมากขึ้น
หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือกระแสของบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตปี 2561 Tattoo Colour X Thailand Philharmonic Orchestra (TPO) ที่ปล่อยมาให้รับชมกันเมื่อต้นปี ด้วยความยิ่งใหญ่ของการผสมผสานวงออร์เคสตราชั้นนำเข้ากับเพลงป๊อปจากวงที่มีลายเซ็นชัดเจนอย่าง Tattoo Colour จึงไม่แปลกใจที่หลายคนยกให้เป็นการแสดงอันสมบูรณ์แบบครั้งหนึ่งในเมืองไทย จนได้ต่อยอดผลงานออกมาเป็นแผ่นเสียงให้เก็บสะสมกัน
Tattoo Colour บอกเล่าความรู้สึกว่า บันทึกการแสดงสดนี้ปล่อยมาในช่วงเวลาเหมาะสมที่ทุกคนห่างหายจากคอนเสิร์ตไปนาน จากคนดูคอนเสิร์ตแค่ 3,000 คนในฮอลล์ มาสู่หลายล้านวิวบน YouTube กลายเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ทำให้กราฟของ Tattoo Colour ตีกลับขึ้นมา ทำให้เพลงในอัลบั้มเก่าพลอยกลับมาทำงานใหม่อีกรอบโดยไม่ต้องโปรโมต นอกจากนี้ก็มีแฟนคลับรุ่นใหม่มาติดตามไลฟ์สไตล์ด้านอื่นๆ จึงได้สัมผัสตัวตนที่สนุกสนานในแบบของพวกเขามากขึ้นอีกด้วย
หลังจากงานแถลงข่าวการลงนามทำแผ่นเสียง THE STANDARD POP มีโอกาสได้สัมภาษณ์ดิม, รัฐ และ จั๊มป์ ย้อนกลับไปพูดคุยถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับวง การทำงานของ เรือนแพ ชุดที่ 6 ที่สมาชิกมีส่วนร่วมทำเพลงด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้น ต่างจากอัลบั้มก่อนๆ กระทั่งได้กลับมาปล่อยซิงเกิลใหม่ อุ่นเครื่องรอคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี นับว่าทั้งหมดนี้ถือเป็นจังหวะเวลาที่ลงตัวมากๆ อีกครั้งหนึ่งในเส้นทางเดินตลอด 16 ปีของวง Tattoo Colour
ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปปีที่แล้วช่วงล็อกดาวน์ Tattoo Colour ทำอะไรกันบ้าง หลังจากปล่อยซิงเกิล ร้อนของ, เซาเถอะ และ สงครามเย็น ออกมาติดๆ กันตั้งแต่ 2563 แต่แล้วก็เว้นไป 1 ปีเต็ม
รัฐ: ปีที่แล้วเราเว้นจากการปล่อยเพลงไปเลย เว้นจากการแสดงสด การเที่ยวข้างนอกด้วย ผลกระทบโดยรวมก็เป็นกันทั้งโลกใช่ไหมครับ ด้วยงานของเราค่อนข้างขยับตัวยาก เรามองว่าในเมื่อมีเวลาว่างเยอะ มันมีงานสตูดิโอที่ต้องรีบเก็บให้เสร็จอยู่ เลยได้เก็บงานเพลงอย่าง SuperCarCare หรือว่า ใจเกเร จนเสร็จได้ครับ
พอเขาเริ่มคลายล็อกดาวน์แล้วเราก็มีเพลงปล่อย ปล่อยเสร็จปุ๊บ พร้อมจะเจอแฟนคลับ พร้อมจะออกงาน ถือว่าเป็นเวลาที่เขาไม่ได้เรียกว่าพักเนอะ เหมือนกับถูกเว้นว่างให้ทำงานให้เสร็จทันการณ์พอดี
นอกจากเรื่องอัลบั้มก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราแล้วกัน เรามองอย่างนี้ คือเราก็ได้มีโอกาสมาจริงจังกับการทำช่อง YouTube ด้วยครับ ถ้าเราไม่ว่างกันขนาดนั้นเราคงสร้างช่อง YouTube ไม่ได้
คอนเทนต์จาก Tattoo Colour TV ตามมาด้วย Tattoo Colour X TPO ทำให้มีแฟนคลับกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นเยอะมาก
รัฐ: ใช่ครับ พอได้อยู่ด้วยกันมากขึ้นก็ถ่ายกันเอง มีทีมโปรดิวเซอร์ทีมอะไรมาช่วย เริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหมือนมีไซด์โปรเจกต์ที่น่าสนใจขึ้นมา คนรู้จักเรา และกระแสตีกลับมาที่วงมากขึ้นก็เป็นผลดี เรามองอย่างนั้นนะครับ
ดิม: อย่างแรกที่หายไปก็เนี่ยแหละ อยู่ในช่วงทำคอนเสิร์ต Tattoo Colour X TPO ด้วย พอตัวนี้ออนแอร์ปุ๊บก็เหมือนเป็นโดมิโนตัวแรกที่ส่งมาหาตัวอื่นๆ ถือว่าเราโชคดี
รัฐ: หลังๆ เราได้คุยกับแฟนคลับบ้าง เราจะถามว่ารู้จัก Tattoo Colour จากเพลงอะไร ที่ไหน หลังๆ ผมว่าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ที่ได้คุยกันจะรู้จักจาก Tattoo Colour X TPO แสดงว่าเป็นแฟนคลับหน้าใหม่ เพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นลูกรุ่นหลาน อายุแบบเรียนอยู่มัธยมอย่างนี้
จั๊มป์: บางคนน่าจะยังไม่ทันฟังเพลงเราเลย หมายถึงว่าบางเพลงเขายังไม่เกิด เพลงนี้เกิดก่อน
ดิม: เป็นคน Gen Z ที่สามารถร้องเพลง กลัว ในอัลบั้ม Hong Ser ตั้งแต่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว
รัฐ: ถ้าอย่างเมื่อก่อน แฟนคลับของเราช่วงเดบิวต์ใหม่ๆ จะเป็นแฟนคลับรุ่นเดียวกัน เพราะช่วงนั้นเรายังเป็นวัยมหาวิทยาลัย พอทุกคนโตขึ้น เราโตขึ้น แล้วเขาอาจจะไปทำอย่างอื่น เริ่มมีความรับผิดชอบอย่างอื่นแล้ว ทำให้แฟนคลับกลุ่มใหม่ตามมาไม่ทัน Tattoo Colour X TPO นี่แหละครับเป็นเหมือนกับเครื่องที่นำพาแฟนยุคใหม่กลับมาเจอกับเราอีกทีหนึ่ง
ดิม: น้องเขาก็ไปรู้เองด้วยว่า Tattoo Colour มีเพลงนั้นเพลงนี้ด้วยเหรอ มันร้องว่าอย่างไร หมายความว่าอย่างไร พอรันแล้วมันรันลิสต์เพลงยาวเลย หลายๆ เพลงอยู่ในอัลบั้มแรกซะเยอะเหมือนกันนะ ทำให้คนย้อนมาฟังแล้วก็ร้องตามได้เฉย
อย่างแต่ก่อนเราคิดว่าเราเอาเพลง กลัว จากอัลบั้มแรกไปเล่นที่ร้านอาหารคงไม่มีใครร้องตาม แต่ตอนนี้ โอ้โห ทุกที่ กลัว นี่ทำงานได้ดี โอกาสสุดท้าย ยิ่งลั่นเลย มันก็ส่งมาเรื่อยๆ เลยครับ
มีฟีดแบ็กอย่างไรกับเทรนด์หรือวัฒนธรรมใหม่ๆ หลังจากแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ มาติดตาม อย่างตอนนี้ก็เพิ่งมีชื่อแฟนด้อมหลังจากอยู่ในวงการมา 16 ปีแล้ว
รัฐ: หลังจากที่มีแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ เข้ามา ก็นำพาวัฒนธรรมใหม่มาด้วย ถูกไหมฮะ เหมือนวัฒนธรรมแฟนคลับเกาหลี มีเรื่องแฟนด้อม ทำมีม ทำ Giveaway แจกกันหน้างานคอนเสิร์ต ซึ่งแตกต่างจากยุคที่เราตั้งวงใหม่ๆ พอแฟนคลับกลุ่มใหม่เข้ามาก็ทำให้เราได้เรียนรู้หลายอย่างเหมือนกันว่ามีแบบนี้จริงๆ นะ เคยได้เห็นแต่วงไอดอลเกาหลี
จั๊มป์: ในไทยอาจจะมีบ้าง แต่ไม่ใช่ยุคเราแน่ๆ ผมก็เลยเห็นว่าไหนๆ กระแสมันตีมาและมีฟีดแบ็กที่ดี เราควรจะตั้งชื่อแฟนด้อมขึ้นมา (รัฐ: จั๊มป์เป็นคนคิดชื่อด้อม) เพราะรู้สึกว่าชื่อด้อมเป็นสิ่งที่จะรีเลตกับวงเราได้ มันจะเกี่ยวเนื่องกับหลายสิ่งหลายอย่างได้ง่ายว่าอันนี้เป็นแก๊งเรา ด้อมเรานะ ผมก็เลยมองหาชื่อและถามเข้าไปในเพจว่าอยากให้ชื่อแฟนด้อมชื่ออะไรดี จนได้ ‘ชาวนัว’ มา
รัฐ: เลยมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน พอเราใช้โซเชียลเป็นขึ้น
ดิม: อย่างที่บอกว่า Tattoo Colour X TPO คือกระดุมเม็ดแรก พอเม็ดที่สองตามมา รัฐพูดไปแล้วว่าเวลาว่างเหล่านั้นเราก็มานั่งคิดคอนเทนต์ คิดผลงาน มีทีมงานมาช่วยทำเรื่องโซเชียล เขาก็จะเริ่มเห็นแล้วว่า Tattoo Colour มันเกรียนนี่หว่า มันคงเกรียนๆ เหมือนพวกกูนี่แหละ ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้อยากจะเกรียนอะไร แต่มันเป็นนิสัยของพวกเราอยู่แล้ว (หัวเราะ) คงจะไปถูกจริตถูกเส้นแฟนๆ น่ะครับ เลยทำให้พวกเราดูเข้าถึงง่ายขึ้น ดูเป็นวงที่ไม่ได้ โห แก่รุ่นใหญ่
จั๊มป์: เขาดูแล้วจะรู้สึกว่ามัน Lively รู้สึกว่า เฮ้ย เกรียนแบบเดียวกับที่เราเกรียนได้นี่หว่า
ดิม: ซึ่งพี่เขาอายุขนาดนั้นแล้วนะ
รัฐ: เขาคงแบบ เออ คนอายุประมาณ 40 ปียังเป็นอย่างนี้ได้ แสดงว่าอนาคตเราคงจะมีหวังแล้วแหละ เราคงจะเจริญนั่นแหละ
บันทึกการแสดงสด Tattoo Colour x Thailand Philharmonic Orchestra
อยากรู้เบื้องหลังการทำคลิปในช่อง Tattoo Colour TV ช่วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วสมาชิกวงหรือทีมงานเป็นคนคิดคอนเทนต์
รัฐ: จริงๆ แล้วเป็นตัววงเราเองเลยครับ
ดิม: ทีมงานเหมือนกับมาบอกว่าสิ่งที่เราคิดมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร หรือจะเติมความสนุกให้มันดีอีกได้อย่างไร แต่รูททั้งหมดมันต้องเกิดขึ้นจากพวกเรา
จั๊มป์: เหมือนทำให้สิ่งที่คิดมากลายเป็นรูปธรรม บางทีเราอาจจะมีโปรดิวเซอร์คอยชี้ทาง คอยจิ้มบ้าง แต่คอนเทนต์และไอเดียโดยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะกลั่นมาจากตัววงเป็นหลักอยู่แล้ว
รัฐ: คุณโปรดิวเซอร์แก้วใบใหญ่เขาบอกว่า อย่างเราเนี่ยหาครีเอทีฟมาคงลำบาก เพราะว่าได้มาแล้วพวกพี่ก็ไม่ฟังเขาหรอก (หัวเราะ) พี่ต้องคิดกันเองถึงจะโอเค มันเลยเป็นตัวตนของเรา และอาจจะทำให้คนที่ดูรู้สึกว่าไม่ได้เซ็ตขึ้นมานะ ดูแล้วก็คงเป็นพวกมึงกันจริงๆ แหละที่คิดกันเอง อะไรอย่างนี้
เห็นว่าตงเป็นคนตัดต่อคลิปเองตั้งแต่คลิปเก่าๆ
ดิม: ใช่ครับ แต่ตอนนี้พี่ตงเขาเริ่มมีลูกแล้วก็มีแบ่งงานไปให้คนอื่นจ้างตัดบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังตัดเองอยู่ดีนะ ในบางอันที่เร่งรีบหรือว่าทำเองได้
รัฐ: Vlog ที่มันดูส่วนตัวมากพี่ตงก็ตัดเอง
จั๊มป์: เพราะว่าตงจะรู้จริตในการตัดว่าตัดตรงนี้อย่างไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราว
เช่น เอาเหล้ามาซิ
ดิม: หรือว่าแฮงก์อยู่ โทษที อะไรก็ว่ากันไป
รัฐ: ก็เป็นฝีมือมันทั้งนั้นแหละ แล้วถามถึงพี่เอี่ยวอย่างไรนะฮะเมื่อกี้นี้ อ๋อ ไม่มีใช่มั้ย
Tattoo Colour TV
พูดถึงเพลงใหม่ของอัลบั้ม เรือนแพ ชุดที่ 6 บ้าง อยากฟังที่มาที่ไป การทำงานคร่าวๆ ของ SuperCarCare และ ใจเกเร สองซิงเกิลที่เพิ่งกลับมาปล่อยในปีนี้
รัฐ: ตอนที่เราเข้าค่าย 7 วัน (เช่าบ้านทำเพลงด้วยกัน) เราสร้างเดโมเล็กๆ มาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนมีโควิด พอมีโควิดก็ไล่มาเรื่อยๆ พอมาถึงเพลง SuperCarCare ก็ยังใช้วิธีการทำงานเหมือนตอนที่เราเข้าค่ายมา คือทุกคนรู้งานแล้วว่าจะขึ้นเพลงกันอย่างไร แชร์ไอเดียกันอย่างไรให้ไม่ทะเลาะกันก่อนแล้วให้มันได้งานจริงๆ
หลังจากนี้ก็น่าจะทำงานในลักษณะนี้เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีบางเพลงที่เราเขียนบ้าง ไม่ได้แชร์กันมาก แต่ส่วนใหญ่ก็อยากให้อัลบั้ม Tattoo Colour ต่อไปจากนี้เป็นการรวมกันเป็นหลัก
จั๊มป์: ระดมความคิดกันตั้งแต่เริ่มต้นเลย
ดิม: สำหรับ SuperCarCare เราแต่งเพลงเหมือนกับแต่งเพลงจีบสาว แล้วพอมี บิ๊ก D Gerrard เข้ามาเติมแรปเข้าไปอีกมันก็ทำให้ หนึ่ง ดูร่วมสมัยนิยมด้วย สอง D Gerrard ทำได้ดีมากๆ วันสองวันแต่งเสร็จแล้ว ออกมาแทบจะไม่ได้แตะต้องแก้อะไร มีแค่นิดๆ หน่อยๆ เป็นการเพิ่มเติมมากกว่าแก้ด้วยซ้ำ
จั๊มป์: เป็นเรื่องสำเนียงหรืออะไรบางอย่างที่อยากจะให้เบลนด์กับเราได้ง่ายขึ้น
รัฐ: เพราะตอนนั้นเราได้ชื่อ SuperCarCare มา เราก็เลยบอกน้องว่าขอมีความเป็นรถเพิ่มขึ้นหน่อย แค่นั้นครับ
ดิม: ส่วน SuperCarCare มาได้อย่างไร เหมือนเรามาแอ๊วหญิง เราก็บอกว่าบ้านพี่รวยนะ บ้านพี่มีซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์คาร์อะไรพี่ ซูเปอร์คาร์แคร์ เอ้า! นั่งแต่งแล้วก็ตลกกันเอง นี่มึงจะให้กูร้องซูเปอร์คาร์แคร์บนเวทีจริงๆ เหรอ (จั๊มป์: จริง มึงเป็นคนพูดออกมาเอง) แล้วผมเป็นคนคิด สุดท้ายพอได้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่าชื่อนั้นสำคัญไฉนจริงๆ เพราะทำให้ทุกคนร้องตามกันได้
จั๊มป์: เพลง ใจเกเร นี่เดินทางมาไกล ถ้าได้ดูเดโมใน Tattoo Colour TV แล้วน่าจะเห็นว่ามันเกิดความเปลี่ยนแปลงที่โหดอยู่ในมุมคนทำเพลง คนฟังก็น่าจะตกใจว่ามาอย่างไร
รัฐ: เอาเวอร์ชันนี้เลยแล้วกัน เรากับพี่เอี่ยว The Richman Toy พยายามจะเขียนเซ็ตติ้งประมาณว่าเป็นตัวแทนของคนเหงาๆ ซึมๆ คือไม่ได้ต้องการให้ฟูมฟาย ไม่ได้มีอาการรุนแรงขนาดนั้น เป็นความรู้สึกที่อยู่ในใจนิ่งๆ แต่รู้สึกแรงอะไรแบบนี้
แล้วก็ชอบวิธีการใช้คำของพี่เอี่ยวด้วย เช่น ‘เป็นเฟรนด์มานานแล้ว’, ‘อันเฟรนด์’ ถือว่าเป็นลีลาที่น่าสนใจ
ดิม: เป็นคำที่วัยรุ่นยุคนี้เขาใช้กัน
รัฐ: แล้วก็จะมี ‘ปิดไฟเมาแล้วควรไปนอน’ คือมีการห้ามใจเอาไว้ สุดท้ายเวลาจะเกเรแค่ไหน จะคิดถึงแค่ไหน ก็ต้องห้ามใจแล้วไปนอน
ดิม: สมมติถ้าผมแต่งมันจะเป็นว่า ‘เลิกราไปนานแล้ว’ ถ้าเป็นศัพท์เราสมัยนั้นน่ะนะ แต่ตอนนี้คือเอี่ยวก็กล้าใช้คำใหม่ๆ ที่ตรงกับเรือนแพจริงๆ เพราะเรือนแพอัลบั้มนี้เราไม่ค่อยอยากจะได้เนื้อเพลงที่ค่อนข้างเรียบง่ายแบบที่เราเคยทำกันมาแล้ว เราอยากได้เนื้อเพลงใหม่ๆ เลยจะได้เห็นแบบ ร้อนของ, เซาเถอะ และ สงครามเย็น ว่ามีคำประหลาดๆ ขึ้นมาเยอะเลย เป็นเนื้อเพลงที่ไม่ค่อยธรรมดาเท่าไร
รัฐ: จริงๆ แล้วทั้งหมดทุกบรรทัดที่พี่เอี่ยวเขียนจะเป็นประมาณนั้น แต่ก็อยู่บนพื้นฐานที่เวลาลงในเมโลดีแล้วถูกต้องอยู่ดี ร้องเข้าปากพี่ดิมได้
เหตุผลที่เลือก MANGTO มากำกับมิวสิกวิดีโอให้ทั้ง SuperCarCare และ ใจเกเร
ดิม: คงจะเป็นเรื่องสีสัน เรื่องมุมมองของผู้กำกับใหม่ๆ แตงโมเองเขาก็เป็นชาวนัวด้วย เขาพูดว่าหนูขอเงินแม่ไปดูคอนเสิร์ตพี่เลยนะ คือมีความชื่นชมระหว่างกันอยู่แล้ว พอต้องมาตีความหมายของ Tattoo Colour ในแบบใหม่ๆ เราก็มานั่งพูดตั้งแต่เรื่อง คอสตูม มุมมองภาพ ให้ดูวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย ดูว่าเด็กสมัยนี้เขาแต่งตัวอย่างไร เราก็แต่งตัวอย่างนั้น แล้วเราก็คีพลุคนั้นทั้งในจอและนอกจอด้วย
จริงๆ ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่าเอ็มวีมีผลต่อการแต่งตัวของโชว์ทุกวันนี้เหมือนกัน เอ็มวีทั้งสองตัวนี้ถูกทำหน้าที่ได้ดีมาก ซึ่งแตงโมก็ทำภาพได้ถึง เพราะเขามีประสบการณ์กำกับงานนักร้องวัยรุ่นมาหลายคนอย่างค่าย YUPP! เขาจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้วัยรุ่นชอบแบบนั้น แบบนี้นะ เราก็จะมีทีมคอสตูมมาจัดการให้
แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราให้เขาลีดทั้งหมดนะครับ เราก็มาเบรนสตอร์มกันอยู่ดีว่าสุดท้ายคุยกันมาแล้วได้อะไรมาบ้าง อย่างเพลง ใจเกเร เป็นไอเดียของคุณรัฐที่อยากให้ตัวนำของเรื่องเป็นผู้หญิง ซึ่งน้องก็รับฟังดีแล้วเราก็เสริมกัน งานเลยออกมาถูกกลุ่มเป้าหมาย ถูกคุณภาพตามที่ใจเราต้องการด้วย วิน-วินทั้งคู่ ทำให้น้องๆ แฟนคลับชาวนัวรุ่นใหม่เข้าถึงเราได้ง่ายกว่าอย่างตอนใส่สูทเล่นเพลง ซ่อนหา ตอนนี้คือดู Catchy แต่ว่าต้องง่ายแล้วก็ดูเป็นเรา
รัฐ: เราทำงานกับคนรุ่นใหม่แล้วคนรุ่นใหม่เก่งขึ้นมาก และค่อนข้างที่จะเชื่อใจด้วย เพราะเราก็มีโจทย์ว่าเราอยากดูสดใหม่เสมอ ไม่ได้อยากดูเป็นคนที่รุ่นใหญ่แล้วต้องไปคีพแอ็กแก่ ทำอะไรอย่างนั้น
ดิม: มีน้อยจริงๆ ที่จะไม่เห็นด้วย ถ้าไม่เห็นด้วยเราก็ต้องหาทางออกให้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ บอกว่าไม่ชอบอย่างเดียว ต้องบอกว่าไม่ชอบเพราะอะไรน่าจะดีกว่า แล้วน้องก็รับฟัง ทำให้งานออกมาดูดีครับ
มิวสิกวิดีโอ SuperCarCare
มิวสิกวิดีโอ ใจเกเร
ยังเหลืออีกตั้งหลายซิงเกิลที่รอปล่อยอยู่ แล้วทั้งอัลบั้มนี้จะเสร็จทันคอนเสิร์ตใหญ่หรือเปล่า
รัฐ: ภายในปีนี้น่าจะปิดอัลบั้มเรียบร้อยเพราะว่าเราจะมีคอนเสิร์ต อะไรนะ คอนเสิร์ตที่บ้านเพื่อน เอกมัยเย็นนี้ (หัวเราะ) ครับ ก็มีแผนคุยกับพี่รุ่งไว้ Smallroom ประกาศไว้แล้วคร่าวๆ ว่าปีนี้จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ เพราะฉะนั้นอย่างไรอัลบั้มจะเสร็จเรียบร้อยก่อนแน่นอน
จั๊มป์: สิ่งที่บอกได้ก็คือคิดว่าปีนี้อย่างไรอัลบั้มน่าจะมาอยู่แล้ว อันนี้น่าจะจริง ส่วนคาดหวังว่าจะมีคอนเสิร์ตปีนี้ไหม ก็คาดหวังว่าจะมีปีนี้เหมือนกัน
รัฐ: วันที่ 11-12 อะไรปะ
จั๊มป์: 18-19 มั้ง
(หมายเหตุ: ล่าสุด Tattoo Colour คอนเฟิร์มเรียบร้อยแล้วว่าคอนเสิร์ตใหญ่จะจัดขึ้นวันที่ 12-13 พฤศจิกายนนี้)
ถ้าอย่างนั้นถามเรื่องซิงเกิลต่อไปก็ได้ อัลบั้มนี้จะไม่มีเพลงช้าเหมือนที่เคยบอกไว้จริงไหม เพราะแฟนๆ อยากฟังเพลงช้ากันเยอะมาก
รัฐ: คือเพลงช้าเนี่ย ถ้าเกิดเรารีบปล่อยมันจะเร็วไง แต่ถ้าปล่อยทีหลังมันถึงจะเป็นเพลงช้า ก็ผ่านมา 2-3 ปีแล้วเนี่ย ถ้าจะปล่อยเพลงต่อไปก็เริ่มช้าละ เพลงต่อไปน่าจะเป็นเพลงช้าแล้วครับ เพราะว่ากว่าจะปล่อยก็นานอยู่
ดิม: ก็ขอฝากเพลง *** ด้วยนะครับ… ตัดออกได้ไหมฮะตรงนี้ ตัดออกนิดหนึ่ง ร้อนของไปหมดละ
ภาพ: Smallroom, Tattoo Colour