เปิดคำให้การของ Michael Kors แบรนด์แฟชั่นหรู ในคดีที่รัฐบาลกลางยื่นฟ้อง ขัดขวางการควบรวมกิจการระหว่าง Tapestry และ Capri บนความท้าทายในยุคโซเชียล โดยเฉพาะ TikTok และอิทธิพลของ Taylor Swift ทำให้แบรนด์มีคนนิยมน้อยลง
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) ได้ยื่นฟ้องเจ้าของแบรนด์หรู COACH, Michael Kors และ Versace เพื่อระงับการควบรวมกิจการบริษัทมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดีลนี้สำเร็จจะทำให้ 6 แบรนด์แฟชั่นถูกรวมอยู่ในบริษัทเดียวกัน ได้แก่ COACH, Kate Spade, Stuart Weitzman ของ Tapestry รวมถึง Versace, JIMMY CHOO และ Michael Kors ของ Capri
เมื่อไม่นานมานี้นักออกแบบแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Michael Kors เข้าไปให้การที่รัฐบาลกลาง โดยได้อธิบายความท้าทายที่แบรนด์ต้องเผชิญความยากลำบากในการทำธุรกิจ ซึ่งตอนนี้คนหันไปสนใจเทรนด์ต่างๆ ผ่านช่องทาง TikTok
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สินค้าแบรนด์หรูพร้อมใจหั่นราคาขาย หวังดึงดูดนักช้อปชาวจีน หลังผู้คนรัดเข็มขัดจนสินค้าค้างสต็อกเพียบ
- เมื่อแบรนด์หรูกลายเป็นฝันที่ไกลเกินเอื้อม เพราะตั้งราคาที่ (คนทั่วไป) ไม่อาจเข้าถึงได้ (และขึ้นไม่หยุด) อาจเป็นผลร้ายมากกว่าดี
- แบรนด์หรูต้องปรับตัว! คนรุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สนแค่ราคาแพง แต่ต้องการสะท้อนตัวตนที่เน้นคุณค่าและเรื่องราว:
หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายกระเป๋าถือบนแขนของคนดังอย่าง Taylor Swift และ Beyoncé ก็กลายเป็นเทรนด์ที่คนคอยติดตาม จึงทำให้แบรนด์เป็นที่สนใจในกลุ่มลูกค้าลดลง เห็นได้จากรายได้ของ Michael Kors ในไตรมาสล่าสุดที่ลดลงถึง 14.2%
ด้านทนายความของ Tapestry และ Capri อ้างว่าการแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าไม่เพียงแต่พิจารณาแบรนด์หรูที่มีราคาสูงกว่า แต่ยังมองหาแบรนด์แฟชั่นราคาถูก รวมถึงการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และตลาดมือสองอีกด้วย โดยการพิจารณาคดีนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้บริโภคเริ่มลังเลกับการซื้อสินค้าราคาสูง ทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมกระเป๋าเผชิญความท้าทายอย่างหนัก
ด้าน FTC ให้เหตุผลว่า การควบรวมของบริษัท โดยเฉพาะการที่ COACH และ Michael Kors เข้ามาอยู่ภายใต้เจ้าของเดียวกัน จะกลายเป็นผู้เล่นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมกระเป๋าที่มีอำนาจในการขึ้นราคาสินค้า อาจทำให้แบรนด์นำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนเดิมหรือต่ำลงก็เป็นไปได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ไม่ว่าบทสรุปของคดีความนี้จะออกมาในรูปแบบไหน แต่อุตสาหกรรมกระเป๋าก็ต้องเผชิญการแข่งขันที่นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้นอยู่ดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ค่อยเอื้อในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากนัก
อ้างอิง: