วันนี้ (2 พฤศจิกายน) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ลงมติไม่เห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ .. พ.ศ. …. หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่เสนอโดย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล
ที่ประชุมมีการลงมติจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรก ผลการลงมติปรากฏว่า มีคะแนนเห็นชอบ 173 เสียง ไม่เห็นชอบ 177 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 4 เสียง ทำให้ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่ผ่านที่ประชุมสภา
ทว่าทันทีที่จบการลงคะแนน ปรากฏว่า ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ขอให้ที่ประชุมนับคะแนนใหม่ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 85 เนื่องจากคะแนนห่างกันไม่ถึง 25 คะแนน โดยมีผู้รับรองตามข้อบังคับ พร้อมเสนอให้นับคะแนนแบบขานชื่อ
ต่อมาจึงมีการลงมติและนับคะแนนใหม่ด้วยวิธีการขานชื่อ ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง หลังการขานชื่อลงคะแนน ผลการลงมติปรากฏว่า มีผู้เห็นชอบ 194 เสียง
ไม่เห็นชอบ 196 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ทำให้ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่ผ่านที่ประชุมสภา เป็นอันตกไป
จากนั้น ส.ส. พรรคก้าวไกลจึงลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้านล่าง โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่าตอนนี้กำลังใจดี และ ส.ส. ทุกคนควรภูมิใจกับผลงานของตัวเอง
“ผมใช้โอกาสนี้ขอบคุณเพื่อน ส.ส. ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนกฎหมายสุราก้าวหน้ามาตลอด และสมาคมฯ พี่น้องเกษตรกรต่างๆ ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่สามารถปลดล็อกความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรมในอุตสาหกรรมและเค้าโครงสุราไทยได้ แต่ผมเชื่อว่ามันก็จะสามารถปักหมุดในระดับหนึ่ง เป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกลตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ที่ตั้งใจจะทลายทุนผูกขาด” พิธากล่าว
ขณะที่เท่าพิภพกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาจะทำเรื่องอะไรสักอย่างได้มาไกลขนาดนี้ ตนไม่เคยเชื่อในปาฏิหาริย์ แต่วันนี้ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ขณะออกจากบ้านว่าจะมีปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น
“ผมคิดเสมอว่าเรามาไกลขึ้นทุกวัน วันนี้คือวันที่เรารอมา 6 ปี ก็ทำให้รู้อะไรบางอย่าง ได้เรียนรู้อะไรมากมายตลอดเวลาที่ทำการเมืองมา เราอาจเสียร่างกฎหมายฉบับนี้ไป แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ได้มาในใจคือความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้น และประสบการณ์จากการที่ได้ทำกฎหมายชิ้นนี้
“ผมขออภัยพี่ๆ น้องๆ ที่เขาฝากความหวังกับผมไว้ ผมจะไปขอโทษด้วยตัวเอง เพราะเขาฝากความหวังมาที่ผมว่าจะเป็นตัวแทนของเขา ผมกราบอภัย ผมทำไม่สำเร็จ ตัวเลข 2 คะแนนเสียงไม่ใช่ข้ออ้าง แพ้ก็คือแพ้ แต่ความเจ็บปวดทั้งหมดผมรับไว้เอง” เท่าพิภพกล่าว
ขณะที่บรรยากาศระหว่างการแถลงข่าว ส.ส. พรรคก้าวไกลมาร่วมสังเกตการณ์ โดยบางคนที่มาร่วมสังเกตการณ์มีสีหน้าที่ค่อนข้างตึงเครียด