วันนี้ (13 ธันวาคม) เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ ‘สายไหม ต้องรอด’ นำหลักฐานการประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์เลขสวย ของกรมการขนส่งทางบก หลังพบว่ามีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนมาก และมีผู้ชนะการประมูลหมายเลข 9 กก 9999 กรุงเทพมหานคร ด้วยราคาสูงกว่า 45 ล้านบาท
เอกภพกล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เข้าร่วมประมูลทุกรายที่พบว่ามีการนำเงินจำนวนมากมาร่วมประมูลว่าเงินเหล่านี้มีที่มาอย่างไร เพราะผู้ที่ร่วมประมูลมีอดีตผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์มาร่วมประมูลด้วย
ทั้งนี้ผู้ต้องหาคนนี้เคยถูกจับเมื่อปี 2563 แต่เมื่อตำรวจส่งฟ้องต่ออัยการ อัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดี จึงอยากให้อัยการสูงสุดมาชี้แจงด้วยว่าเหตุใดถึงสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย
ส่วนกรมการขนส่งทางบกที่เปิดให้ประมูลป้ายทะเบียน ควรตรวจสอบผู้ร่วมประมูลก่อนด้วยว่าเงินที่นำมาประมูลเป็นเงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะมิเช่นนั้น กรมการขนส่งทางบกก็จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มขบวนการกระทำผิดกฎหมายได้
ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในคดีของ แทนไท ณรงค์กูล อดีตผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์ที่เคยถูกตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพญาไทดำเนินคดีเมื่อปี 2563 ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว แต่เมื่อส่งไปที่อัยการกลับมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และส่งความเห็นมายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ซึ่งก็ได้มีความเห็นแย้งกลับไปยังอัยการสูงสุด แต่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน ทำให้คดีถึงที่สุดไป
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ตำรวจได้ร่วมกับสำนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกันยึดทรัพย์ของเครือข่ายนี้ได้ทรัพย์สินไปกว่า 176 ล้านบาท ส่วนการที่แทนไทได้ไปประมูลป้ายทะเบียนเป็นเงินกว่า 45 ล้านบาทนั้น ทางตำรวจจะใช้โอกาสนี้ในการสืบสวนเส้นทางการเงิน ว่าเงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร รวมทั้งจะตรวจสอบว่ายังมีการข้องเกี่ยวกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายด้วยหรือไม่
