วันนี้ (9 พฤษภาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต. อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) และ พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม 3 ชั่วโมงกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่สังคมตั้งข้อสงสัยหลายประการจากการแถลงข่าวของ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม วันนี้
โดย พล.ต.ต. อุดรกล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ โดยตนขอยืนยันว่าตำรวจชุดคลี่คลายคดีทำงานด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส ข้อมูลที่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีและไม่ได้รับผิดชอบได้นำมาแถลงอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานในคดีนี้เป็นรูปแบบมีคณะกรรมการ มีการประชุมติดตามความคืบหน้า สรุปผลเป็นระยะๆ เสมอมา และยังมีผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบุคคลใดมาสร้างความกดดัน เบี่ยงเบน หรือสั่งการให้คดีนี้บิดเบี้ยว และไม่มีใครจะเอาตำแหน่งของตัวเองมาทำคดีให้เสียหายอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าตำรวจนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาพิสูจน์ทราบ ประกอบแผน หรือสำนวนเพื่อสืบหาความข้องเกี่ยวในพยานหลักฐานนั้นเป็นไปตามกรอบกฎหมาย มีสถานที่ที่เหมาะสม และอยู่ในวันเวลาราชการ
ด้าน พล.ต.ต. ยิ่งยศระบุว่า คดีนี้ทุกขั้นตอนตำรวจทำงานภายใต้กฎหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญา อีกทั้งการจะอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญต้องเป็นไปตามที่กฎหมายรองรับและมีองค์กรรับรองอย่างถูกต้อง ตำรวจไม่สามารถเอาบุคคลเพียงคนเดียวที่กฎหมายไม่รองรับมาอ้างอิงเป็นพยานในคดีนี้ได้ แต่กลับกัน สิ่งที่ใช้ได้คือผู้เชี่ยวชาญที่ต้องเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง และผ่านการรับรองจนสามารถขึ้นให้การในชั้นศาลได้
ฉะนั้นกลุ่มบุคคลที่ออกมาแถลงข่าวและตั้งประเด็นสงสัยจนอาจทำให้คดีเสียหาย ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว และทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ซึ่งตำรวจปล่อยผ่านไม่ได้
โดยประเด็นที่มีการเผยแพร่คลิปที่อ้างว่าเป็นร่างของแตงโมในการแถลงข่าวที่เกิดขึ้น จะใช่ร่างแตงโมจริงหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการการสอบสวนแล้ว ไม่สามารถก้าวล่วงในส่วนนี้
ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้สอบถามว่าเหตุใดบุคคลภายนอก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเข้าถึงข้อมูลในสำนวนการสอบสวนของตำรวจได้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ไม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวนำข้อมูลที่อ้างมาจากแหล่งไหน ซึ่งหากใครเป็นคนส่งข้อมูลให้ก็ต้องเตรียมตัวรับผลจากกระทำ เช่นเดียวกับบุคคลที่นำมาเผยแพร่
และกรณีการลักศพที่มีการพูดถึง ว่าร่างผู้เสียชีวิตถูกนำออกไปพิสูจน์นั้น ขอยืนยันตามหลักการวัตถุพยานว่าสิ่งใดที่อยู่ในการครอบครองของเจ้าพนักงาน ซึ่งยังไม่สิ้นสุดอายุความ เจ้าพนักงานสามารถนำออกมาตรวจสอบได้ตลอดเวลา และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (ผบช.ภ.1) ระบุว่า ตนมั่นใจในการทำงานของพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีนี้ เจ้าหน้าที่ทุกนายทำตามกระบวนการกฎหมายอย่างโปร่งใส และทำคดีตามพยานหลักฐาน ส่วนกรณีที่ผู้ใดกล่าวหาว่าผิดพลาดคลาดเคลื่อนก็พร้อมให้ตรวจสอบ และจะไปแจ้งที่ไหนก็ได้ชุดเราไม่หวั่นไหว พร้อมชี้แจงตลอดเวลา
ส่วนกรณีคลิปที่นำมาเปิดเผยอ้างว่ามีการเคลื่อนย้ายร่างนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตนไม่ทราบเจตนาของบุคคลดังกล่างที่ออกมาแถลงข่าววันนี้ว่าต้องการอะไร แต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตนและชุดทำงานสูญเสียกำลังใจแต่อย่างใด ส่วนใครเป็นคนสร้างหลักฐานเท็จต้องติดตามต่อไป
ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อไปสู่ชั้นอัยการและศาล เชื่อว่าความจริงทุกอย่างจะปรากฏ พร้อมระบุว่าคณะทำงานชุดนี้ไม่มีใครเกลือเป็นหนอน ส่งข้อมูลดังกล่าวให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน รวมทั้งบุคคลที่ออกมาจัดแถลงตั้งข้อสงสัยที่อ้างว่ามีหลักฐาน ไม่เคยส่งให้ตำรวจได้พิสูจน์ตรวจสอบแต่อย่างใด