ปล่อยออกมาให้ฟังอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Requiem อัลบั้มใหม่ในรอบ 2 ปีของ keshi ซึ่งครั้งนี้เขากลับมาพร้อมผลงานอันเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากมายที่นำมาเรียบเรียงอย่างงดงาม ต้องบอกว่าอัลบั้มใหม่นี้ไม่ได้เป็นแค่ผลงานที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของ keshi เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนการเติบโตของเขาในฐานะศิลปินเลยก็ว่าได้
นอกจากปล่อยอัลบั้ม Requiem แล้ว เขายังแวะมาพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวเบื้องหลัง แรงบันดาลใจ พร้อมทั้งเผยถึงกิจกรรมที่อยากทำในช่วงที่เขาจะมาเยือนประเทศไทยสำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก กับงาน keshi : REQUIEM TOUR IN BANGKOK ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านได้เลยว่าปีหน้าเขาจะทำกิจกรรมอะไรที่ไทยบ้าง
จากอัลบั้มที่แล้ว GABRIEL มาสู่อัลบั้มใหม่ Requiem มุมมองของคุณที่มีต่อการสร้างผลงานครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อนอย่างไร
อัลบั้มนี้ผมได้ร่วมงานกับทีมของผมมากขึ้นอย่างชัดเจน เพราะอัลบั้มก่อนจะร่วมงานกับทีมเพื่อคุยกันเรื่องไอเดียเพลงเป็นหลัก แล้วผมจะไปสานต่องานด้วยตัวเอง แต่สำหรับ Requiem เราร่วมสร้างสรรค์มันไปด้วยกัน ซัพพอร์ตกันและกันตั้งแต่เริ่มต้นไปจนจบเลย
จริงๆ ผมเองก็กังวลเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ เพราะกลัวว่ามันจะคล้ายคลึงกับอัลบั้มก่อนหน้า ผมก็เลยพยายามเปิดรับคอมเมนต์จากหลายๆ คน แต่ก็จะยังมีตัวตนของผมอยู่ในงาน อย่างเช่น บางครั้งสิ่งที่คนอื่นตื่นเต้นผมก็อาจไม่ตื่นเต้น ไม่ว่าจะเพลง คอร์ด ไอเดียต่างๆ แต่ผมก็ต้องเปิดใจมากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมคนอื่นถึงตื่นเต้น และพอผมเข้าใจแล้วก็จะคิดว่า ‘อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง’ ซึ่งผมคงจะไม่เห็นมุมมองนี้ ถ้าผมไม่ได้ร่วมทำงานกับพวกเขา
การทำงานในอัลบั้ม Requiem ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเติบโตหรือพัฒนาไปจากก่อนหน้านี้ไหม
ผมมักจะเรียนรู้วิธีการเขียนเพลงและปรับปรุงคุณภาพของเพลงให้ดีขึ้น หรือแม้แต่การบันทึกเสียงจริงๆ ก็ตาม และผมเองก็คิดว่าเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ ก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพราะมันช่วยในการถ่ายทำได้เยอะมาก ซึ่งการศึกษาเรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุกสำหรับผม ผมเรียนรู้มันเองได้โดยที่ไม่ต้องไปโรงเรียน
และอัลบั้มนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำมากขึ้น เพราะการที่ศิลปินและคนเขียนเพลงร้องเพลงใส่ไมโครโฟนเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง และใช้เวลาไปกับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ ก็ต้องบอกว่ามันมีบางครั้งที่เราบันทึกเสียงได้ไม่ค่อยแม่น ดังนั้นทั้งหมดที่ผมได้มาจากการเรียนรู้ก็คือ ผมสามารถแยกแยะสิ่งที่ควรเก็บไว้ในเพลงหรือควรปล่อยไป ผมทำได้ดีขึ้นมาก ทักษะการฟังก็ดีขึ้นมากเหมือนกัน
เพลงที่คุณชอบมากที่สุดจากอัลบั้ม Requiem
เพลงโปรดคือเพลง Dream ผมว่ามันมีความเรียบง่าย แต่ก็มีอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนไว้ในเพลงนี้ ผมภูมิใจกับเพลงนี้มาก เนื้อหามันมีความชัดเจน แต่บางมุมก็จะมีความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ เพราะเนื้อเพลงพูดถึงการอยากอยู่กับใครสักคนตลอดเวลา แต่จะใช้เนื้อเพลงบรรยายความรู้สึกอ้อมๆ เพียงเล็กน้อย ซึ่งผมภูมิใจมาก และมันยังสะท้อนมุมมองดนตรีที่ลึกซึ้งจากการใช้เมโลดี้ของเปียโนเบาๆ ที่ทำให้ผู้ฟังอินตามไปด้วย และที่สำคัญมันเป็นเพลงสุดท้ายที่ผมเขียนในอัลบั้มนี้ เพลงนี้ก็เลยเป็นเหมือนลูกคนสุดท้อง เพราะผมรู้สึกว่าลูกคนสุดท้องมักจะได้รับความรักมากที่สุด
ก่อนหน้านี้ไม่นาน คุณโพสต์ถึงเพลง Soft Spot อยากให้พูดถึงแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังเพลงนี้
เพลงนี้คือเพลงที่หวานที่สุดในอัลบั้มเลย ทั้งเสียงและเนื้อหา ผมรู้สึกได้เลยว่าผมตื่นเต้นและกังวลเกี่ยวกับเพลงนี้มาก เพราะมันแตกต่างจากเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า เสียงมีความจัดจ้านชัดเจนมากอย่างกับสีชมพู Hot Pink เลย แต่ก็ให้ความรู้สึกดีๆ ตอนฟังนะ เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มเลย
ผมตกหลุมรักเพลงนี้เลย เพราะแรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากความรัก เหมือนกับว่าคุณพูดถึงคนที่คุณไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองชีวิตของคุณที่มีต่อความรักได้ จนมันเกิดขึ้นกับคุณจริงๆ แล้วคุณก็รู้สึกว่า คุณจินตนาการถึงชีวิตนี้ที่ไม่มีเขาคนนั้นไม่ออกเลย ทุกเรื่องมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขาทั้งหมด และคุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆ เขา นั่นแหละเรื่องราวของเพลงนี้
นอกจากอัลบั้มนี้แล้ว ปีนี้ชีวิตของคุณบรรลุเป้าหมายหรือเผชิญเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง และมีเหตุการณ์อะไรที่คุณตั้งตารออยู่
การเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีที่ใหญ่ขึ้น ปีที่ผ่านมาคอนเสิร์ตที่เซี่ยงไฮ้น่าจะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตผม เมื่อขึ้นเวทีไป สิ่งที่คุณจะมองคือความมืดในฝูงชน ตัวคุณเองก็จะถูกไฟส่องให้สว่างมากๆ ดังนั้นผมก็จะขอให้ทุกคนเปิดแฟลชโทรศัพท์ของพวกเขา แล้วมันก็จะเป็นทะเลดวงดาวอยู่ข้างหน้าผมเลย แล้วครั้งนั้นมันเป็นทะเลดวงดาวรูปพาราโบลาด้วย น่าเหลือเชื่อมาก นั่นเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมจริงๆ
สำหรับชีวิตส่วนตัว ปีนี้ผมกำลังจะอายุ 30 ปี ผมเชื่อว่าหลายคนกังวลเรื่องนี้ แต่ผมตื่นเต้นกับมันนะ ผมรู้สึกว่าผมมีประสบการณ์มากพอที่จะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับอายุ 30 แต่มันก็ไม่ใช่ไม่รู้สึกกับสิ่งนี้ไปเสียทั้งหมดหรอกนะ คือผมก็รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ผมทำ ดังนั้นผมก็อยากจะยอมรับทุกการเติบโตอย่างสง่างามที่สุด
คุณกำลังจะมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศไทยปีหน้า แล้ว 3 สิ่งที่คุณอยากทำในประเทศไทยคืออะไร
ผมอยากทำทุกอย่างที่ผมยังไม่เคยมีโอกาสทำแบบนักท่องเที่ยวในประเทศไทย จริงๆ ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เป็นคนไทย เขาเคยพาไปเยี่ยมบ้านของเขาแล้วก็พาไปเที่ยวด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ผมก็ยังอยากไปดูช้าง อยากไปนั่งรถตุ๊กตุ๊กด้วย มันเรียกตุ๊กตุ๊กใช่ไหมนะ ผมยังไม่เคยนั่งเลย อยากลองมากๆ แล้วก็คิดว่าน่าจะมีอาหารไทยอีกหลายอย่างที่ผมอยากลองกิน
จริงๆ หนึ่งในอาหารไทยที่ผมชอบคือก๋วยเตี๋ยวเป็ด ปกติก็ชอบกินก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว เส้นที่ผมเคยกินก็จะเป็นพวกบะหมี่ไข่ ผมชอบกินแบบนั้นเพราะโตมาแบบนั้น แต่ผมเป็นคนเวียดนามก็จะชอบกินเฝอ ซึ่งก๋วยเตี๋ยวในไทยน่าจะเป็นเส้นที่ทำมาจากข้าว แล้วเวลาผมกินที่ไทยก็ไม่แน่ใจว่าก๋วยเตี๋ยวเป็ดใช้เส้นอะไร แต่ทุกครั้งที่กินก็เป็นเส้นข้าว เลยคิดว่าถ้าได้ไปไทยต้องลองกิน
