กลุ่มกบฏตาลีบันยังคงเดินหน้าปฏิบัติการรุกคืบยึดเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยล่าสุดวานนี้ (8 สิงหาคม) ได้บุกเข้ายึดเมืองเอกของ 3 จังหวัดทางตอนเหนือเพิ่มอีก ได้แก่ เมืองคุนดุซ ซาร์เอโปล และตาโลกัน
โดยการจู่โจมเป็นไปอย่างรวดเร็วและใช้เวลาห่างกันในการเข้ายึดแต่ละเมืองเพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้ตอนนี้มีเมืองเอกของ 5 จังหวัด รวมถึงเชเบอร์กาน และซารันจ์ ที่ถูกบุกยึดตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (7 สิงหาคม)
หนึ่งในเมืองใหญ่ที่ถูกจับตามองมากที่สุดตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลอัฟกานิสถาน คือเมืองคุนดุซ ในจังหวัดคุนดุซ ซึ่งเคยถูกกลุ่มตาลีบันบุกยึดมาแล้วในปี 2015 และ 2016 และมีรายงานว่านักรบของตาลีบันยังคงเฝ้าระวังอยู่ภายในเมืองหลังบุกยึดได้สำเร็จ
อัมรุดดิน วาลี สมาชิกสภาท้องถิ่นของจังหวัดคุนดุซ เปิดเผยต่อสำนักข่าว Al Jazeera ว่ามีการปะทะอย่างหนักระหว่างกองกำลังของตาลีบันกับกองทัพรัฐบาลเมื่อบ่ายวานนี้ ก่อนที่อาคารสำนักงานของรัฐบาลทั่วเมืองจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตาลีบัน ยกเว้นฐานทัพและสนามบินที่กองกำลังความมั่นคงของอัฟกานิสถาน (ANDSF) ยังคงปักหลักต่อสู้จนถึงตอนนี้
ขณะที่กลุ่มตาลีบันออกแถลงการณ์วานนี้ ระบุว่าได้ยึดศูนย์บัญชาการตำรวจและที่ทำการของผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงเรือนจำที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในคุนดุซเผยว่ามีร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน รวมผู้หญิงและเด็ก และผู้บาดเจ็บมากกว่า 30 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลเมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน ที่เมืองซาร์เอโปล เมืองเอกของจังหวัดซาร์เอโปล มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่และกองทัพรัฐบาลได้ล่าถอยออกไปยังค่ายทหารที่อยู่ห่างจากเมืองไปราว 3 กิโลเมตร หลังจากที่กลุ่มตาลีบันบุกเข้าปิดล้อมและยึดเมืองได้สำเร็จ
เช่นเดียวกับที่เมืองตาโลกัน เมืองเอกของจังหวัดทาคาร์ มีรายงานว่าขบวนรถของเจ้าหน้าที่และกองทัพรัฐบาลหนีออกจากเมือง โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมืองยืนยันต่อสำนักข่าว AFP ว่าได้ถอนกำลังออกจากเมืองตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ หลังรัฐบาลล้มเหลวในการส่งกำลังสนับสนุนเข้าช่วยเหลือ ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตาลีบัน
ทั้งนี้ กลุ่มตาลีบันยืนยันว่าไม่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงใดๆ กับฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ ซูเฮล ชาฮีน โฆษกฝ่ายสื่อระหว่างประเทศของกลุ่มตาลีบัน ให้สัมภาษณ์ต่อ Al Jazeera TV วานนี้ เตือนการแทรกแซงของสหรัฐฯ ที่ยังโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของตาลีบัน และอ้างว่าทางกลุ่มตาลีบันต้องการสันติภาพ แต่เป็นฝ่ายรัฐบาลอัฟกานิสถานที่เปิดฉากจู่โจมและทิ้งระเบิดใส่ ทำให้ต้องตอบโต้ด้วยการยึดเมือง
“เรามีศักยภาพที่จะยึดเมืองได้ แต่เรากำลังรอพวกเขา (รัฐบาล) อยู่ และนโยบายของเราคือเพื่อสันติภาพและการปรองดอง แต่แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาเริ่มโจมตีเรา พวกเขาทิ้งระเบิดใส่เรา ทำให้เราตอบโต้และยึดศูนย์กลางของ 2 จังหวัด” ชาฮีนระบุ พร้อมยืนยันว่านโยบายของตาลีบันคือการเจรจาเพื่อยุติปัญหากับฝ่ายรัฐบาล
ด้าน อาหมัด ชูจา จามัล หัวหน้ากิจการระหว่างประเทศของสภาความมั่นคงแห่งชาติอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่ากลุ่มตาลีบันยังขาดศักยภาพในการตรึงกำลังรักษาเมืองเอกที่ยึดไว้ได้ แต่สิ่งที่คาดว่าอาจทำให้การสู้รบยืดเยื้อคือการฝังกับระเบิดไว้ตามถนน อีกทั้งนักรบของกลุ่มตาลีบันยังใช้บ้านของประชาชนในการหลบซ่อนตัวและโจมตีกองทัพ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้ประชาชนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
“ความจริงที่น่าเศร้าของการที่แผ่นดินเปลี่ยนมือ และการรุกคืบของกลุ่มตาลีบันเข้าสู่พื้นที่เหล่านี้ ซึ่งเคยสงบสุขมาจนถึงตอนนี้ ก็คือพลเรือนกำลังแบกรับความรุนแรงจากการกระทำทั้งหมด ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นผู้หญิงและเด็ก และนั่นเป็นวิธีการทำงานของตาลีบัน ซึ่งก็คือ พวกเขากำลังใช้บ้านของพลเรือนเพื่อซ่อนตัวและทำการโจมตีไปด้วย และนั่นก็สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับพลเรือน” จามัลกล่าว
ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลเผยว่ากองทัพกำลังพยายามต่อสู้เพื่อยึดคืนฐานที่มั่นสำคัญจากตาลีบัน ซึ่งจุดต่อไปที่ต้องจับตามองคือเมืองกันดาฮาร์ และเฮรัต เมืองใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของประเทศ และเมืองลัชคาร์กาฮ์ ในจังหวัดเฮลมานด์ทางตอนใต้ ที่ยังมีรายงานการปะทะอย่างหนักเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ภาพ: Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
