สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า ไฮบาตุลเลาะห์ อัคฮุนด์ซาดา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตาลีบัน ประกาศว่า ทางกลุ่มได้กลับมาบังคับใช้โทษปาหินหรือเฆี่ยนตีสตรีในที่สาธารณะ หากพบว่าหญิงผู้นั้นคบชู้
อัคฮุนด์ซาดากล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เราจะเฆี่ยนตีผู้หญิง…เราจะปาหินใส่พวกเธอให้ตายในที่สาธารณะ (หากมีการผิดประเวณี)” พร้อมยังกล่าวด้วยว่า “คุณอาจเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิสตรีเมื่อเราปาหินหรือเฆี่ยนตีหญิงในที่สาธารณะโทษฐานคบชู้ เพราะมันขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยของคุณ แต่ผมเป็นตัวแทนของอัลลอฮ์ และคุณเป็นตัวแทนของซาตาน”
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีมองว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นการสานต่อความพยายามของตาลีบันที่จะต่อต้านอิทธิพลของชาติตะวันตก พร้อมแสดงความกังวลว่าสตรีในอัฟกานิสถานอาจต้องกลับไปสู่วันที่มืดมน ดังเช่นการปกครองของกลุ่มตาลีบันในช่วงยุค 1990
Afghan Witness ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถาน รายงานว่า เฉพาะในปีที่ผ่านมา ผู้พิพากษาที่กลุ่มตาลีบันแต่งตั้งขึ้นมามีคำสั่งให้เฆี่ยนตีหรือประหารชีวิตผู้กระทำความผิดในที่สาธารณะถึง 417 ครั้ง และในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้หญิง 57 คน
อนึ่ง นับตั้งแต่ที่กลุ่มตาลีบันกลับมามีอำนาจในอัฟกานิสถานอีกครั้งช่วงเดือนสิงหาคม 2021 กลุ่มตาลีบันก็ได้ยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญของอัฟกานิสถานที่เคยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก พร้อมระงับการใช้ประมวลกฎหมายที่มีอยู่ โดยหันมาบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ที่เข้มงวดแทน นอกจากนี้พวกเขายังสั่งห้ามไม่ให้ทนายความและผู้พิพากษาหญิงปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย
ภาพ: David Sacks via Getty Images
อ้างอิง: