×

สว. เทวฤทธิ์ เรียกร้อง แพทองธาร-ภูมิธรรม ลงมือทำ พิสูจน์คำขอโทษคดีตากใบ

โดย THE STANDARD TEAM
28.10.2024
  • LOADING...
คดีตากใบ

วันนี้ (28 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีคดีตากใบที่หมดอายุความไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ โดยระบุว่า สัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ประชุมเพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 9 เข้าให้ข้อมูล

 

จากการประชุมพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 14 คนหลบหนีผ่านช่องทางที่เป็นทางการและช่องทางธรรมชาติ จึงเป็นประเด็นที่เราอยากจะวิงวอน แม้คดีจะล่วงเลยไปแล้ว แต่อยากให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่นอกจากจะออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษแล้ว ยังต้องพิสูจน์ด้วยการลงมือทำ

 

เทวฤทธิ์ระบุว่า หากรัฐบาลจริงใจในคดีตากใบต้องช่วยกันเร่งรัดดำเนินคดี อำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีชายแดนใต้อื่นๆ ด้วย เพราะความยุติธรรมเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทำความจริงให้ปรากฏแล้วความยุติธรรมจะตามมา เมื่อความยุติธรรมตามมา ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ก็จะลดลง เราต้องดึงเขาให้เข้ามาเห็นว่าที่นี่เป็นบ้าน พร้อมให้ความยุติธรรมทำกับพวกเขา

 

เทวฤทธิ์เสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงจนนำไปสู่ความสูญเสีย ทั้งกรณีตากใบและกรณีอื่นๆ เช่น การวิสามัญที่เขาตะเวเมื่อปี 2562 รวมถึงคดีสลายการชุมนุมช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมปี 2553 ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกลางกรุงเทพฯ

 

นอกจากนี้ยังต้องให้ความปลอดภัยกับญาติผู้สูญเสียในคดีตากใบ หลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงลุกขึ้นมาฟ้องร้องก่อน 1 ปีจะหมดอายุความ เนื่องจากเพิ่งรู้ข้อเท็จจริงว่าคดีถูกชะลอไว้ตั้งแต่ปี 2557 เราอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหาร อาจจะมีการเลือกตั้งหลังจากนั้นแต่ก็มีความระแวง ประการสำคัญคือรัฐบาลต้องให้หลักประกันกับญาติที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องและต่อสู้ เพราะฝ่ายตรงข้ามในคดีเป็นผู้ที่ถืออาวุธและเป็นฝ่ายความมั่นคง รัฐบาลต้องหามาตรการที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของญาติผู้สูญเสีย

 

เทวฤทธิ์กล่าวด้วยว่า แม้คดีจะหมดอายุความแต่สามารถทดเวลาได้ คือร้องขอให้ประเทศต้นทางที่รู้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอย่างเป็นทางการดำเนินคดี เพื่อเป็นการแสดงความพยายามถึงที่สุด ไม่ใช่บอกแค่ว่า พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เพื่อปัดภาระความรับผิดชอบ ไม่ใช่ภาระของพรรค แต่คือภาระความรับผิดชอบของรัฐบาล

 

ขั้นตอนต่อมาคือการแสวงหาข้อเท็จจริง อำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงโดยรัฐ รวมถึงการคุ้มครองประชาชนที่ลุกออกมาเรียกร้อง โดยเฉพาะญาติที่ออกมาฟ้องคดีที่ใช้ความกล้าหาญมาก เนื่องจากอยู่ในภาวะหวาดกลัวมานาน

 

“การหลบหนีแปลว่ามีรอยรั่ว เราจะปล่อยให้หลบหนีแล้วจบไม่ได้ ใครปล่อยให้รั่วออกไป หากจริงใจและเสียใจต้องหาว่าใครปล่อยให้รั่วออกไป พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ที่เซ็นอนุมัติให้ พล.อ. พิศาล ลาป่วยถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2567 จะบอกว่าใครยื่นมาก็เซ็นให้ทั้งหมดไม่ได้ เพราะท่านพิเชษฐ์รู้ดีว่าคดีมีการฟ้องไปแล้ว คงต้องมีการตรวจสอบว่าการเซ็นอนุมัติของท่านพิเชษฐ์ใช้ดุลพินิจถึงที่สุดหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการเดินทางออกนอกประเทศอย่างเป็นทางการและช่องทางธรรมชาติตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงด้วย” เทวฤทธิ์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising